วิธีลดน้ำหนักด้วยสารต้านอักเสบทรงพลังจากพืช
ทราบมั้ยคะว่า อายุที่เพิ่มมากขึ้นและความเครียดที่ทวีขึ้น มีส่วนทำให้เซลล์ไขมันบวมตัวขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้น้ำหนักตัวมากองกันอยู่ในช่องท้องและลำตัวส่วนกลางในรูปแบบของไขมัน มีผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยทัฟท์ ที่กล่าวถึงสารอาหารสำคัญที่ช่วยให้เซลล์ไขมันทำลายตัวเองและช่วยลดไขมันในช่องท้องได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยนะคะ
มีสารพฤษเคมีต้านอักเสบในพืชที่ช่วยทำลายเซลล์ไขมันได้จริงๆ นะคะ นกอยากให้เราทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่า เวลาที่คนเราอ้วนนั้น เซลล์ไขมันจะบวมและอักเสบส่งผลให้เกิดการเก็บกักไขมันไว้ในตัวของมันเองเยอะมาก เยื่อหุ้มเซลล์ไขมันก็จะบวมเป่ง และเต็มไปด้วยไขมันที่เป็นของเหลวคั่งค้างอยู่ข้างใน เป็นไขมันที่เต็มไปด้วยสารอักเสบ แต่เมื่อมีสารต้านอักเสบที่ทรงพลังเข้าไปในเซลล์ มันจะทำการต้านอักเสบและส่งผลให้ผนังของเซลล์ไขมันที่อักเสบและบวมเป่งอยู่นั้น หดตัวลงจนระเบิดออก ปลดปล่อยไขมันที่เป็นของเหลวออกมาจากเซลล์ เป็นของเสียส่วนเกินให้ร่างกายกำจัดออกไปโดยธรรมชาติ และเมื่อเซลล์ไขมันถูกกำจัดแบบนี้ เซลล์ไขมันใหม่จะเข้ามาแทนที่ และทำหน้าที่ในการรักษาน้ำหนักให้เป็นปกติได้ดีกว่าเดิม
คุณผู้อ่านเคยมีประสบการณ์นี้มั้ย แบบยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าแล้วเห็นเสื้อผ้าหลากหลายไซส์ ตั้งแต่ เล็ก กลาง ใหญ่ มีทั้งที่เคยใส่ได้เมื่อปีที่แล้ว มีแม้กระทั่งเสื้อตัวใหญ่ไซส์ตอนเคยอ้วนก็ยังแขวนอยู่ เมื่อดูๆ ไป ตัวเราเองก็ดูเหมือนจะกลับมาไซส์อ้วนนี้อีกแล้ว แล้วก็ยังมีชุดตัวที่หวังว่าวันนึงจะผอมจนสามารถใส่ชุดนี้อวดโฉมได้
เซลล์ไขมันของคนเรานั้นก็มีหลากหลายไซส์เช่นกันค่ะ มีทั้งเซลล์ไขมันที่หดตัวและบวมตัวอยู่รวมกัน แล้วนี่เป็นปัญหาความอ้วนอย่างไรหรือคะ? เซลล์ไขมันจดจำได้ว่ามันเคยมีไขมันจุอยู่เท่าไหร่ และเคยบวมสุดไปได้ถึงขนาดไหน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันราวกับว่าเป็นเซทพอยท์ที่มันรออยู่ว่าเมื่อไหร่จะกลับไปอ้วนขนาดนั้นได้อีก นี่เป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมคนที่เคยอ้วนเพราะลดน้ำหนักแล้วมักจะมีปัญหาเรื่องน้ำหนักโยโย่กลับไปอ้วนทุกครั้งที่ลดน้ำหนักได้
ทีนี้มีข่าวสุขภาพนูทริชั่นล่าสุดว่า เราสามารถทำให้เซลล์ไขมันถูกทำลายได้โดยการทำให้ร่างกายของเรานั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยสารพฤกษเคมีจากพืช และการทำเช่นนี้จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้การลดน้ำหนักสำหรับผู้หญิงในวัย 45 ปีขึ้นไปมีความยั่งยืนไม่โยโย่ คุณหมอ เฟรด เพสคาทอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนักจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียอธิบายว่า “ เมื่อเซลล์ที่มีความจำว่ามันเคยอ้วนได้ถูกทำลายและกำจัดออกไปมันจะถูกแทนที่ด้วยเซลล์ไขมันใหม่ที่สามารถมีขนาดเล็กกว่าเดิม แล้วเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้ โดยการทำงานของ สารสำคัญสองตัวนี้ Turmeric ขมิ้นชัน และ Resveratrol เรสเวอราทรอล
รายชื่อพืชและสารพฤกษเคมีที่ทรงพลังช่วยกำจัดไขมันส่วนเกิน
Turmeric ขมิ้นชัน
ขมิ้นชันนั้นถือได้ว่าเป็นดารานำในเรื่องของการต้านอักเสบเลยทีเดียวนะคะ มันมีฤทธิ์ในการเจาะรูให้เซลล์ไขมันปล่อยไขมันที่ท่วมอยู่ออกมาและช่วยให้ผู้หญิงอายุเกิน 45 ปีสามารถลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้น ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือ “Spice Up, Live Long” เขียนโดย ดร. มาลิน่า แจมโพลิส
จากการศึกษาวิจัยในสัตว์ของมหาวิทยาลัยทัฟท์ พบว่าเครื่องเทศขมิ้นชันนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยสารเคอร์คิวมิน สารนี้คือตัวสำคัญที่บังคับให้เซลล์ไขมันหดตัว และตายลง นำไปสู่การผอมลงอย่างจริงจัง
ในการศึกษาอีกอันที่นึงพบว่าผู้หญิงที่รับประทานขมิ้นชันหนึ่งช้อนโต๊ะทุกวันสามารถลดไขมันในช่องท้องได้มากกว่ากลุ่มเปรียบเทียบอีกกลุ่มที่ไม่ได้ทานขมิ้นชัน และประโยชน์ของขมิ้นชันนั้นมีมากกว่าแค่เรื่องการลดน้ำหนักเพราะการกินขมิ้นชันทุกวันช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น 80% และช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น 63% ลดอาการปวดข้อได้ถึง 58% และช่วยให้ไขมันคอเลสเตอรอลเอาตัวดีเพิ่มขึ้น 29%
Resveratrol เรสเวอราทรอล
เรสเวอราทรอล เป็นสารต้านอนุมูนอิสระที่พบในองุ่น ผลเบอร์รี่ ดาร์คช็อกโกแลตและถั่วลิสง อีกทั้งยังเป็นสารที่ได้รับการศึกษาในเรื่องของการต้านอนุมูนอิสระมากที่สุดในรอบสิบปี มันเป็นสารที่ทำให้น้ำหนักลดลงด้วย ในการศึกษาที่มหาวิทยาลัยจอร์เจียพบว่าสารเรสเวอราทรอลสามารถหยุดเซลล์ไขมันไม่ให้เติบโตต่อไปได้ ซึ่งช่วยลดความสามารถในการเก็บกักไขมันลงได้ถึง 80% แล้วยังบังคับให้เซลล์ไขมันสลายตัวเร็วกว่าปกติอีกด้วย และมีการศึกษาวิจัยของญี่ปุ่นที่พบว่าการรับประทานเรสเวอราทรอลวันละ 100 มิลลิกรัม ช่วยให้คนที่เป็นโรคเบาหวานประเภทสองลดน้ำหนักลงได้มากกว่าคนที่ไม่รับประทานเป็นหลายร้อยเท่า
อีกสิ่งที่คนมักมองข้ามในความสามารถของสารต้านอนุมูนอิสระเรสเวอราทรอลก็คือมันสามารถช่วยลดความเครียดของการมีน้ำหนักตัวมากได้ส่งผลให้ไขมันในช่องท้องน้อยลง สารต้านการอักเสบในเรสเวอราทรอล ยังช่วยปรับปรุงภาวะดื้ออินซูลิน ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ และช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมองมากขึ้นด้วย นี่คือผลพลอยได้สำคัญที่ช่วยให้อวัยวะทั้งหลายในร่างกายทำงานราวกับว่าพวกมันอายุน้อยลงเป็นสิบปีเลยค่ะ
เมื่อนำทั้งสองอย่างมาผสมผสานทำงานด้วยกัน ไขมันก็มีแต่จะหายไป
นักวิจัยใช้เวลากว่าสิบปีแห่งการค้นคว้าเพื่อจะพิสูจน์ว่าแต่ละสารนี้มีความมหัศจรรย์อย่างไรบ้าง ดร. แจมโพลิส กล่าวว่า “ในเรื่องของสารอาหารนั้นมันมักจะทำงานได้ดีกว่าเมื่อทำงานร่วมกัน ได้ผลกว่าทำงานเดี่ยวๆ” ซึ่ง ดร. เพสคาทอร์ เห็นด้วย “ สารต้านอนุมูนอิสระเหล่านี้ทำงานร่วมกันส่งเสริมกันและขยายความสามารถของกันและกัน” ดร. แจมโพลิส ยังกล่าวว่า “มีงานวิจัยมากมายกล่าวถึงการทำงานของขมิ้นชันร่วมกับเรสเวอราทรอว่าก่อให้เกิด synergistic effects หรือรวมกันเพิ่มพลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการลดน้ำหนัก” โดยที่เธอได้ออกแบบวิธีการลดน้ำหนักโดยการเพิ่มสารเคอร์คิวมินและเรสเวอราทรอลในการกินอาหารทุกวัน เพียงแค่สัปดาห์เดียวบางคนน้ำหนักอาจจะลดลงไปได้ถึงห้ากิโลกรัมเลยทีเดียว
ตัวอย่างอาหารตามธรรมชาติที่มีสารเหล่านี้
ไวน์แดง มีเรสเวอราทรอลจากเปลือกองุ่นเยอะมาก ยิ่งนานยิ่งดีเช่น Malbec หรือ Pinot noir
ดาร์คช็อคโกแลต เป็นวิถีสุขภาพแสนอร่อยเพียงแค่เลือกดั๊กช็อกโกแลตที่มีส่วนผสมของผู้กู้มากกว่า 70% ยิ่งเยอะยิ่งดีเพื่อการดูดซึมที่ดีขึ้นแบ่งออกเป็นสามถึงหกคำเล็กๆและรับประทานตอนท้องว่างยิ่งดีค่ะ
น้ำองุ่น เลือกแบบที่มีน้ำตาลน้อยหรือทำมาจากองุ่นพันธุ์คอนคอร์ดหรือมีสีม่วงเข้ม ซึ่งมีปริมาณสารเรสเวอราทรอลมากกว่าองุ่นขาวถึง 90% การดื่มน้ำองุ่นหกออนหรือรับประทานองุ่นสด 40 ผลสามารถช่วยลดไขมันเลวแอลดีแอลได้และช่วยลด ตัวต้นเหตุของการกระตุ้นไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้ถึง 40%
คุณหมอแนะนำให้รับประทานอาหารที่เสริมสารเรสเวอราทรอลและสารเคอร์คิวมิน
กันวันละเท่าไหร่? เพื่อให้ผลที่สามารถวัดได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น
คุณหมอ มาร์ค ไฮแมนแนะนำโดสสำหรับคนที่มีอาการต่อมหมวกไตอ่อนล้าเรื้อรังว่าให้รับประทานเรสเวอราทรอลวันละ 250 มิลลิกรัม สองครั้งต่อวันเพื่อที่จะช่วยเพิ่มพลังให้กับเซลล์และปกป้องเซลล์จากอนุมูนอิสระซึ่งทำลายสุขภาพ ยิ่งทานคู่กับโยเกิร์ตยิ่งช่วยเพิ่มการดูดซึมให้ดีขึ้น
ส่วนคุณหมอแจมโพลิสแนะนำให้รับประทานขมิ้นชันให้ได้สารเคอร์ฟคิวมินวันละ 400 มิลลิกรัม ขมิ้นชันควรทานคู่กับพริกไทดำและไขมันดีเพื่อช่วยการดูดซึม
ส่วนคุณหมอโจเซฟ มารูนแนะแนำให้รับประทานอาหารเสริม trans-resveratrol วันละ 500 มิลลิกรัมทุกวัน
มีงานวิจัยในแคนาดาที่พูดถึงการกินเรสเวอราทอลก่อนออกกำลังกาย หรือทำงานบ้านคือเวลาที่ดีที่สุดเพิ่มความอึดสุดๆ อีก 20% ซึ่งต้องขอบคุณสารเรสเวอราทรอลที่ช่วยให้หัวใจแข็งแรงขึ้น อึดขึ้น
ตัวอย่างเมนูอาหารลดน้ำหนัก ทั้งมื้อเช้า กลางวัน เย็น และของหวาน ที่ทำรับประทานเองได้ง่ายๆ
มื้อเช้า พุดดิ้งเมล็ดเจีย โดยแช่เมล็ดเจียค้างคืนในน้ำมะพร้าวเติมด้วยนมอัลมอนด์รสวานิลลา ทานกับผลไม้รวมยิ่งเป็นองุ่นแดงหรือดำ ผลเบอร์รี่ ได้ยิ่งดี
มื้อกลางวัน ซุปขมิ้นชัน ต้มข่าไก่ใส่ขมิ้นชัน แกงเหลืองปลาแบบภาคใต้คือดีที่สุด
มื้อเย็น ไก่กระเพราข้าวคีนัว หรือข้าวกล้องราดแกงกะหรี่
ของหวาน พาวเวอร์บอล โดยการผสมแป้งอัลมอนด์ เนยถั่ว และเมเปิลไซรัปเข้าด้วยกันปั้นเป็นลูกบอล นำไปแช่เย็น 30 นาทีและนำมากลิ้งในดาร์คช็อกโกแลตที่ละลายแล้ว ดจากนั้นนำไปแช่เย็นอีกทีแล้วจึงเสิร์ฟเย็น หรือจะทานดาร์คช็อคโกแลตไปเลย
เครื่องดื่ม นมพืชหรือลาเต้ใส่ผงขมิ้นชัน โกโก้ร้อนไม่เติมน้ำตาล ตั้งใจทานผงขมิ้นชันให้ได้วันละหนึ่งช้อนโต๊ะนะคะ การดื่มไวน์แดงวันละแก้วก็เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพค่ะ
Success Story ของคนที่ทำตามวิธีการนี้แล้วลดน้ำหนักได้สำเร็จ
คุณ แครี่ บลู วัย 68 ปี ลดน้ำหนักได้สิบกิโลกรัมในหนึ่งเดือนแรกของการทานแบบนี้ ถ้ายังมีเนื้อที่เหลือนกเขียนเรื่องราวของเธอเพิ่มตรงนี้ได้ค่ะ แต่ถ้าบทความยาวแล้วก็ตัด success story ออกได้ค่ะ




