เป็นโสดแล้วดีอย่างไรกับสุขภาพ

สำหรับคุณผู้รักสุขภาพท่านใดยังโสดอยู่ ไม่ต้องเป็นกังวลไปนะคะ เพราะความโสดของเราก็มีข้อดีอยู่หลายอย่างรวมถึงเป็นผลดีกับสุขภาพบางประการของเราด้วย โดยผลดีที่ส่งผลกับสุขภาพของเราที่เป็นผลมาจากความโสดนี้ได้มาจากงานวิจัยของ Western Washington University ดังนี้เลยค่ะ

คนโสดจะมีค่า BMI (ดัชนีมวลกาย) ต่ำกว่าคนที่มีคู่

การศึกษาจาก Western Washington University บอกเอาไว้ว่าคนโสดจะผอมกว่าคนมีคู่เฉลี่ยประมาณ 3.5 ปอนด์หรือประมาณ 1.5 กิโลกรัมทั้งในหญิงและชาย

โสด ต้องสวย ต้องปัง

เมื่อคุณผู้รักสุขภาพหลาย ๆ ท่านอยู่ในช่วงเวลาแห่งความโสด นั่นหมายความว่าเราจะมีเวลามากขึ้นในการดูและสุขภาพและบุคลิกภาพของเรา

เปิดโลกใหม่กับการท่องเที่ยวในสถานที่ใหม่ที่ไม่คุ้นเคย

การที่เราออกเดินทางไปที่ใหม่ ๆ เราจะเจอกับคนใหม่ ๆ สภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ก็จะทำให้เราได้ออกกำลังกายมากขึ้นกับการเดินทาง เปิดความคิดของสมองใกลขึ้นไม่หมุ่นกับเรื่องและสถานที่เดิม ๆ ซึ่งช่วยให้สุขภาพใจของเราดีขึ้นกว่าการอยู่ที่เดิมเป็นเวลานาน

สุขภาพและความงาม

เราอาจจะสังเกตุเห็นหลายคนที่มีคู่ (แต่ไม่ใช่ทุกคู่นะคะ) จะมีเรื่องให้กังวล เครียด หรือการทะเลาะกันอยู่บ่อย ๆ ซึ่งเหตุต่าง ๆ เหล่านั้นจะทำให้ร่างกายเสื่อมได้ไวกว่าคนโสดที่ไม่มีปัญหาจากการมีคู่

คนโสดมีความเสี่ยงในการเกิดโรคน้อยกว่าคนที่แต่งงานแล้ว

หนึ่งสาเหตุที่ทำให้ร่างกายเกิดโรคได้ง่ายขึ้นมาจากความเครียด ซึ่งด้วยสาเหตุที่คนโสดส่วนใหญ่จะมีเรื่องให้เครียดน้อยกว่าคนที่มีคู่ ความเสี่ยงจากการที่ร่างกายอ่อนแอและทำให้เกิดโรคก็จะน้อยกว่า

กินอย่างไรให้ร่างกายฟิตเปรี๊ยะ

ใช่ว่าสาว ๆ ทุกคนที่มีคู่แล้วจะมีสุขภาพที่ด้อยกว่าสาวโสดนะคะ เพราะหากพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของเราไม่หย่อนลงจากการมีคู่ ความโสดหรือไม่โสดก็ไม่มีผลกับสุขภาพของเราแล้วค่ะ ซึ่งครั้งนี้เราจะมารู้จักกับการกินที่จะทำให้ร่างกายของเราฟิตอยู่ตลอดกันค่ะ

สาวเลข 2

จากงานวิจัยด้านสุขภาพบอกไว้ว่าสาววัยหมายเลข 2 นี้ มีแนวโน้มในการกินอาหารพวก Junk food มากขึ้นกว่าตอนที่เป็นวัยรุ่นถึงประมาณ 25% และมีโอกาสในการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้นเนื่องจากกิจกรรมทางสังคมช่วงวัยทำงาน ซึ่งอาหารที่สาว ๆ วัยเลข 2 นี้ต้องการมากก็คือ

โปรตีน เพราะร่างกายจำเป็นต้องใช้โปรตีนในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมร่างกายจากการโหมทำงานในช่วงอายุวัยนี้

โพแทสเซียม เป็นธาตุที่ร่างกายต้องการในปริมาณที่น้อยแต่ก็มีความจำเป็นกับร่างกายโดยเฉพาะหัวใจของเรา เพื่อสร้างเสริมพื้นฐานของหัวใจที่แข็งแรงสำหรับการก้าวสู่วัยต่อ ๆ ไป

โอเมก้า 3 ที่เราได้ยินอยู่บ่อยครั้งทางสื่อต่าง ๆ ซึ่งสามารถช่วยเสริมสร้างสมองและสารสท่อประสาท รวมถึงระบบไหลเวียน หลอดเลือด หัวใจ พร้อมกับประโยชน์มากมายด้านอื่น ๆ

สาวเลข 3

สาวในวัยเลข 3 ส่วนใหญ่จะเริ่มมีครอบครัวกันในวัยนี้ หรือบางคนก็จะมีลูกในวัยเลขสามนี้ และอาหารที่ควรรับประทานมากขึ้นในวัยนี้ก็อย่างเช่น

โฟเลต เป็นสิ่งที่ควรรับประทานสำหรับสาววัยเลข 3 นี้ โดยเฉพาะคนที่มีบุตรแพทย์จะแนะนำให้รับประทานอาหารที่มีโฟเลตสูง ชึ่งโฟเลตนี้มีอยู่ในอาหารหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาโวคาโด ผักโขม หน่อไม้ฝรั่ง น้ำส้มคั้น และธัญพืชมากมาย

ไฟโตนิวเทรียนท์ ซึ่งมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระเพื่อความความสามารถนี้ให้กับร่างกายในวัยนี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง

ธาตุเหล็ก คือแร่ธาตุที่จำเป็นกับสาวัยเลข 3 เอามาก ๆ โดยเฉพาะสาว ๆ ที่มีบุตรแล้ว ซึ่งมีมากในเนื้อสัตว์ เมล็ดฟักทอง ผักใบเขียวจัด

สาวเลข 4

ร่างกายของสาววัยเลข 4 ส่วนใหญ่จะมีอัตราการเผาผลาญที่ต่ำลง ทำให้เราต้องลดปริมาณพลังงานจากอาหารที่รับประทานลง และความเสื่อใของร่างกายในด้านต่าง ๆ ก็เสื่อมมากขึ้น รวมถึงโครงสร้างหลักของร่างกายอย่างเช่นกระดูกอีกด้วย

แคลเซียมเป็นธาตุที่สาววัยเลข 4 จะสูญเสียอย่างรวดเร็ว ซึ่งเหล่าสาว ๆ วัยนี้จะต้องเสริมแคลเซียมให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ไม่เช่นนั้นในระยะช่วงวัยเลขต่อไปจะมีโอกาสเกิดปัญหาสูงมาก

วิตามินดีจะต้องเสริมควบคู่กับการเสริมแคลเซียมเนื่องจากวิตามินดีจำเป็นเป็นต่อการดูดซึมแคลเซียม และในทางศาสตร์การชะลอวัยจะแนะนำเป็นวิตามิน D-3 นะคะ

ไฟเบอร์ก็จำเป็นกับสาววัยเลข 4 และสาวทุกวัยเพื่อช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น


ทั้งหมดนี้เป็นอาหารที่จำเป็นกับคุณผู้รักสุขภาพทุกท่านไม่ว่าหญิงหรือชาย รวมถึงทุกวัย เพียงแต่บางช่วงวัยนั้นจำเป็นต้องเสริมบางอย่างให้มากขึ้นจากความต้องการใช้งานของร่างกายที่มากขึ้นเท่านั้น และแวะมาคุยเรื่องสุขภาพกับนกได้ที่แฟนเพจ Facebook: Health Society by Nok Chalida ที่อินสตาแกรม NokHealthSo หรือ Line Official: @HealthSocieity นะคะ และอย่าลืม Subscribe รายการ Health Society by Nok Chalida ทาง YouTube พร้อมชมรายชมรายการ “เฮลท์โซไซตี้” ด้วยกันนะคะ

นางสาวไทยปี 2541 จบปริญญาเอกสาขาวิทยาศาสตร์การชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง รวมถึงสอบผ่านมาตรฐานผู้มีวิชาชีพด้านสุขภาพวิทยาศาสตร์ชะลอวัยจาก American Board Anti-Aging Health Practitioner สถาบัน A4M และปัจจุบันกำลังศึกษาต่อปริญญาเอกด้าน Anti Aging and Regenerative Science ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ติดตามความเห็น
รูปแบบการแจ้งเตือน
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments