อันตรายจากการลดน้ำหนักแบบโยโย่😱👀
อันตรายจากการที่น้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ แบบโยโย่เอ๊ฟเฟ็กต์นั้นมันมีมากกว่าที่หลายคนคิด เริ่มต้นปีใหม่ หลายคนคงอยากจะลดน้ำหนักและเปลี่ยนสุขภาพให้ดีขึ้น
วันนี้นกจึงขอเล่าถึงแนวคิดลดน้ำหนักที่ถูกต้องและปลอดภัยต่อสุขภาพในระยะยาวให้ทุกท่านได้ทราบนะคะ
เมื่อไรก็ตามที่ร่างกายน้ำหนักลดสิ่งที่เราจะสูญเสียก็คือมวลกล้ามเนื้อและมวลไขมัน มวลไขมันมันก็จะประกอบไปด้วยเซลล์ไขมันหลายๆ เซลล์มากองอยู่รวมกันใช่มั๊ยคะ หลายคนเข้าใจว่าเวลาน้ำหนักลดจำนวนเซลล์ไขมันจะลดไปด้วยแต่มันไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ เวลาที่เราน้ำหนักลดเซลล์ไขมันก็จะหดตัวลงแต่ไม่ได้ลดปริมาณลงนะคะ แค่หดตัวเล็กลงเท่านั้น นี่คือข่าวดีเวลาที่เราลดน้ำหนักได้ แต่ข่าวร้ายก็คือ เซลล์ไขมันที่หดตัวลงนั้นมันจะปล่อยไขมันสารพิษออกมาชื่อ Arachidonic Acid หรือ AA จริงๆ แล้วร่างกายมนุษย์เราจำเป็นต้องใช้ไขมันสารพิษนี้ในการดำรงชีวิตแต่ใช้แค่นิดเดียวใช้แค่กำจัดแบคทีเรีย ยีสต์และสิ่งแปลกปลอมทั้งหลายที่เข้ามาในร่างกาย แต่การที่มีไขมันสารพิษนี้มากเกินไปทำให้เกิดการอักเสบแบบซ่อนเร้นซึ่งน่ากลัวมากหากไม่จัดการกับมันให้ร่างกายเข้าสู่สภาพสมดุลตามปกติ เวลาน้ำหนักลดนอกจากร่างกายจะปล่อย Arachidonic Acid นี้ออกมาแล้วมันยังปล่อยไขมันที่สะสมสารพิษออกมาด้วย เช่น PCBs และ Dioxins ซึ่งสารพิษเหล่านี้ก็จะวิ่งอยู่ในระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายเรา นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมในช่วงแรกของการลดน้ำหนักหลายคนจะมีอาการวิงเวียนศีรษะ รู้สึกไม่สดชื่นและอาจพาลเลิกล้มความตั้งใจที่จะลดน้ำหนัก

แต่อย่างไรก็ตามการลดน้ำหนักแล้วมีผลข้างเคียงเล็กๆ น้อยๆ อย่างนี้ที่ร่างกายปล่อยสาร Arachidonic Acid และสารพิษอื่นๆ ที่สะสมอยู่ในร่างกายออกมาก็ยังถือว่าคุ้มค่าที่ก้าวข้ามผ่านมันไปและลดน้ำหนักที่เกินอยู่ให้สำเร็จ แต่ปัญหาที่พบเห็นบ่อยก็คือสำหรับคนส่วนใหญ่ที่ลดน้ำหนักได้ 95%ของน้ำหนักที่ลดได้สำเร็จมันกลับมาค่ะ น้ำหนักขึ้นใหม่เร็วไวพอๆ กับเวลาที่ใช้ลดด้วย
ซึ่งความเร็วการที่น้ำหนักกลับคืนมานี้ขึ้นอยู่กับระดับฮอร์โมนอินซูลินที่ร่างกายหลั่งออกมา คนส่วนใหญ่กลั้นใจไดเอ็ทให้น้ำหนักลดไวๆ พอเสร็จภารกิจที่ต้องสวย ก็กลับสู่ไลฟสไตล์เดิมๆ ที่ทำให้อ้วน คือกินแป้งขัดขาวมากเกินไป หรือได้รับแคลอรี่โดยรวมมากเกินไป ส่วนใหญ่น้ำหนักที่คืนกลับมาก็จะมีสองสาเหตุนี้รวมๆ กัน
เป็นเรื่องน่าเศร้าว่า การหลั่งฮอร์โมนอินซูลินออกมามากขึ้นอีก ก็ส่งผลให้ร่างกายผลิต Arachidonic Acid หรือไขมันสารพิษนี่ออกมามากเช่นกัน ดังนั้นน้ำหนักที่คืนกลับมาก็มาพร้อมกับ Arachidonic Acid ที่สะสมอยู่ในไขมันมากขึ้นกว่าแรกเริ่มอีก ก่อให้เซลล์ไขมันมีการอักเสบมากกว่าเดิมและเพิ่มความรุนแรงในการอักเสบ
เมื่อเราใช้ชีวิตแบบโยโย่ไดเอ็ท หรือลดๆเลิกๆ อ้วนๆ ผอมๆ นั้น นกขอบอกเลยว่าคุณกำลังเติมไขมันสารพิษ Arachidonic Acid เข้าไปในร่างกายคุณอย่างไม่ตั้งใจ ซึ่งการอักเสบแบบนี้อาจจะเริ่มจาก Silent Inflammation หรืออักเสบแบบซ่อนเร้นจนลุกลามมาเป็นการอักเสบของหัวใจ สมอง และ ระบบภูมิคุ้มกัน นั่นก็คือโรคหัวใจ อัลไซเมอร์ และมะเร็งตามลำดับ มีการศึกษาในแถบยุโรปนานมาแล้วตั้งแต่ในปี ค.ศ. 2007 ที่แสดงให้เห็นว่าผู้ชายยุโรปที่น้ำหนักขึ้นๆลงๆ มีโอกาสตายมากกว่าผู้ชายยุโรปที่มีน้ำหนักคงที่ไม่เปลี่ยนแปลงบ่อยๆ ถึงแม้ว่าน้ำหนักที่คงที่ของพวกเขานั้นเป็นน้ำหนักที่เข้าข่ายเป็นคนอ้วนก็ตาม

และอีกหนึ่งเรื่องที่เราควรให้ความสนใจก็คือเซลล์ไขมันนั้นเป็นที่สะสมสารพิษจากสิ่งแวดล้อม เช่น PCBs, Dioxins ยาปราบศัตรูพืช และย่าฆ่าแมลง ซึ่งสารพิษทั้งหมดที่กล่าวนี้ล้วนแล้วแต่ละลายได้เป็นอย่างดีในไขมัน จำไว้เลยว่า เมื่อไรก็ตามที่เราลดน้ำหนัก และมีการสลายไขมันในร่างกาย สารพิษเหล่านี้ก็จะถูกปล่อยออกมาในกระแสโลหิต ถ้าการลดน้ำหนักนั้นค่อยเป็นค่อยไป ลดน้ำหนักได้ประมาณสัปดาห์ละครึ่งกิโลกรัม ตับก็จะมีเวลาที่จะแปรสภาพสารพิษละลายในไขมันเหล่านี้ให้เป็นสารพิษละลายได้ในน้ำและถูกขับออกไปจากร่างกายได้ทางปัสสาวะ แต่ถ้าเราลดน้ำหนักเร็วเกินไป อย่างเช่น สามวันลดน้ำหนักสี่กิโลกรัม สารพิษมากมายก็จะพุ่งไปกำจัดที่ตับ แต่ปัญหาคือตับจะรับมือสารพิษทำงานกำจัดออกไม่ทัน คำถามที่ตามมาก็คือ ทีนี้สารพิษจะไปสะสมรอที่ไหนได้ล่ะ คำตอบที่น่าสะพรึงมากก็คือ สารพิษละลายในไขมันเหล่านี้ก็จะพุ่งไปที่อวัยวะถัดไปที่มีไขมันมากมายอยู่แล้ว นั่นก็คือ สมอง ซึ่งเราทุกคนก็คงไม่อยากใช้สมองเป็นที่สะสมสารพิษที่คั่งค้างในร่างกายเป็นแน่ ทั้งหมดทั้งมวลนี้สรุปสั้นๆ ก็คือ อย่าลดน้ำหนักเร็วเกินไป ลดน้ำหนักได้สำเร็จแล้วก็ต้องหาไลฟสไตล์ที่จะรักษาน้ำหนักที่ลดได้แล้วให้คงที่นานๆ และอย่าไดเอ็ทแบบลดๆ เลิกๆ เพราะผลเสียมันไม่ใช่แค่ร่างกายพัง ตัวย้วย แต่สมองที่มีค่ายิ่งของคุณอาจได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แวะมาคุยเรื่องสุขภาพกับนกได้ที่แฟนเพจ FB: Health Society by Nok Chalida หรือ ติดตามนกได้ที่ IG: NokHealthSo นะคะ และอย่าลืม Subscribe รายการ Health Society by Nok Chalida ทาง YouTube ค่ะ