กินไก่มาก เป็นโรคเกาต์จริงหรือไม่
เมื่อเป็นโรคเกาต์ก็จะถูกห้ามไม่ให้กินไก่ สำหรับคนที่ไม่ชอบรับประทานไก่อยู่แล้วก็คงไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่ไก่มักจะมาหลอกหลอนเราในหลากหลายช่องทางสื่อซึ่งอาจจะทำให้หลายท่านนั้นอดใจไม่ไหว ฉะนั้นครั้งนี้เราจะมาหาคำตอบกันว่าเมื่อเป็นเกาต์แล้วเรายังสามารถกินไก่ได้หรือไม่ มีแค่ไก่เท่านั้นหรือที่เราห้ามกิน ที่สำคัญกว่านั้นคือการกินไก่มาก ๆ จะทำให้เราเป็นเกาต์หรือไม่
สาเหตุของโรคเกาต์
สาเหตุของโรคเกาต์เกิดจากการมีกรดยูริกอยู่ในเลือดในปริมาณที่สูงมาก ๆ เป็นเวลานาน ทำให้เกิดการตกตะกอน ซึ่งกรดยูริกที่ตกตะกอนทำให้เกิดอาการข้ออักเสบ
โรคเกาต์สามารถรักษาให้หายได้
โรคเกาต์สามารถรักษาให้หายได้ โดยโรคเกาต์ถูกแบ่งออกเป็น 3 ระยะคือ
(1) ระยะข้ออักเสบเฉียบพลัน
ระยะข้ออักเสบเฉียบพลันตามข้อเท้าหรือข้อต่าง ๆ โดยหากเราไม่ได้ทำการรักษาใด ๆ อาการจะสามารถหายได้เองใน 5 – 7 วัน
(2) ระยะไม่มีอาการ
หลังจากที่อาการข้ออักเสบเฉียบพลันหายไปแล้วก็จะไม่มีอาการเหมือนคนปกติทั่วไป
(3) ระยะอักเสบเรื้อรัง
เกาต์ในระยะอักเสบเรื้อรังจะมีการปวดเป็นระยะเวลายาวนาน 3 – 5 ปี โดยความเจ็บปวดและจุดต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากโรคเกาต์ในระยะนี้จะมีมากขึ้นกว่าระยะอักเสบเฉียบพลัน
กรดยูริกคืออะไร
กรดยูริก (Uric Acid) เป็นกรดที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นมาได้เอง และสามารถมาจากอาหารแต่ปกติจะได้รับจากอาหารไม่ถึง 20% ของปริมาณกรดยูริกทั้งหมด โดยหากในร่างกายของผู้ชายและผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนมีกรดยูริกเกิน 7 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรจะจัดว่ามีกรดยูริกในปริมาณสูง
แต่ในผู้หญิงช่วงวัยที่ยังมีประจำเดือนหากมีปริมาณยูริกเกิน 6 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรก็ถือว่ามียูริกในปริมาณที่สูง
อาหารที่มียูริกสูง
https://pixabay.com/photos/2181478/ กุ้ง – https://pixabay.com/photos/4952610/ ไก่ย่าง – https://pixabay.com/photos/1246287/
สัตว์ปีก – สัตว์ปีกทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นไก่ เป็ด ห่าน หรือนก ล้วนมียูริกในปริมาณสูง ยอดของผัก – ยอดมะพร้าว ยอดอ่อนทานตะวัน ยอดกระถิน แม้กระทั่งหน่อไม้หรือถั่วงอกก็เป็นอาหารที่มีกรดยูริกสูง นอกจากนี้เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็เป็นสิ่งที่มียูริกสูงทั้งนั้น
เราไม่ควรรับประทานอาหาร / สัตว์ปีกที่มียูริกสูอย่างนั้นหรือ
หากครอบครัวเครือญาติของเราเคยมีสมาชิกเป็นเกาต์มาก่อนก็จำเป็นต้องมีความระมัดระวังการรับประทานอาหารที่มีผลกับยูริกภายในร่างกาย แต่ก็ยังสามารถรับประทานได้ในปริมาณที่น้อย
ถึงแม้ว่าการตรวจเลือดของเราจะมีผลออกมาว่ามีกรดยูริกสูงเราก็ยังสามารถรับประทานอาหารเหล่านี้ได้ประมาณสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง แต่ถึงจะสามารถรับประทานได้ก็ควรเลือกส่วนที่รับประทานเพื่อให้ปริมาณรูยิกในเลือดเพิ่มึ้นน้อยที่สุด
สำหรับใครที่ไม่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเกาต์ ก็สามารถรับประทานในปริมาณปกติได้
เมื่อเป็นโรคเกาต์แล้ว
สำหรับคนที่เป็นโรคเกาต์แล้วหรือมีอาการก่อนอื่นเลยต้องพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ พยายามไปตามที่หมอนัด และที่สำคัญคือห้ามหยุดกินยาเองโดยพลการพร้อมกับหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้ระดับของกรดยูริกในเลือดสูงขึ้นอย่างในรายการข้างต้น
กับสิ่งที่เราถกกันมาในข้างต้นว่าเป็นเกาต์สามารถกินไก่ได้หรือไม่ ก็สามารถรับประทานได้ในปริมาณที่น้อย ไม่เกิน 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่สำหรับคนที่มีความเสี่ยงในการเป็นเกาต์ก็พยายามหลีกเลี่ยงให้ได้จะดีกว่านะคะ และแวะมาคุยเรื่องสุขภาพกับนกได้ที่แฟนเพจ Facebook: Health Society by Nok Chalida ที่อินสตาแกรม NokHealthSo หรือ Line Official: @HealthSocieity นะคะ และอย่าลืม Subscribe รายการ Health Society by Nok Chalida ทาง YouTube พร้อมชมรายชมรายการ “เฮลท์โซไซตี้” ด้วยกันนะคะ