กินเจอย่างไรไม่ให้อ้วน

ใกล้เทศกาลกินเจกันแล้วหลาย ๆ ท่านอาจจะถือช่วงนี้เป็นช่วงเวลาแห่งการลดน้ำหนักประจำปี แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาก็คือเกือบทุกคนมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นกว่าทุกช่วงหลังจากเทศกาลกินเจ และวันนี้นกจะมาแนะนำกฎในการกินเจ 5 ข้อที่จะทำให้เราไม่อ้วนหลังจากผ่านเทศกาลกินเจกันค่ะ

กฎเหล็กข้อ 1: เลือกกินแป้งที่ไม่ขัดขาว

ให้เราเลือกกินแป้งที่ไม่ผ่านการขัดสีอย่างเช่นข้าวกล้อง ขนมปังธัญพืช ลูกเดือย หรือแหล่งอื่น ๆ ที่ไม่ผ่านการขัดสี เพราะแป้งที่ไม่ผ่านการขัดสีจะใช้เวลาและพลังงานในการเปลี่ยนเป็นน้ำตาลสูงกว่าแป้งที่ผ่านการขัดสี การที่ระดับน้ำตาลในเลือดของเราไม่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วจะทำให้เราไม่มีความรู้สึกอยากกินจุบกินจิบอยู่ตลอด เมื่อไม่อยากกินจุบกินจิบ ไม่อยากของหวานแล้ว โอกาสอ้วนน้อยลงแน่นอนค่ะ

กฎเหล็กข้อ 2: เลือกกินผักใบมากกว่าผักหัว

พืชผักที่มีหัวอย่างเช่น หัวมัน หัวเผือก หัวแครอท หรือหัวอื่น ๆ เป็นแหล่งแป้งที่พืชใช้สะสมพลังงาน ทำให้มีพลังงานสูงมาก ๆ เมื่อเทียบกับใบ ซึ่งเมื่อเรากินหัวที่เป็นแหล่งเก็บพลังงานของพืชมาก พลังงานที่พืชสะสมไว้ก็จะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลในเลือดของเราจำนวนมากและทำให้เราหิวบ่อยมากขึ้น

กฎเหล็กข้อ 3: เลือกรับประทานของต้ม นึ่ง ตุ๋น มากกว่าของทอด

อาหารเจส่วนใหญ่ใช้น้ำมันจำนวนเยอะมากเลยค่ะ เราอาจจะต้องเลือกรับประทานกันเฉพาะของต้ม นึ่ง ตุ๋น ซึ่งก็เป็นที่รู้กันว่าไขมันทำให้อ้วนได้มากแค่ไหน ส่วนคนที่ใช้เทคนิคการลดน้ำหนักด้วยวิธีการรับประทานอาหารแบบคีโตเจนิคก็อย่าเผลอรับประทานคาร์โบไฮเดรตนะคะ ไม่อย่างนั้นจะสามารถกลับมาอ้วนได้ง่าย ๆ เลยค่ะ

https://pixabay.com/photos/2097947/

กฎเหล็กข้อ 4: กินหวานให้น้อยลง

ของกินที่มีรสหวานบ่งบอกถึงการมีส่วนผสมของน้ำตาลอยู่ ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเราสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ความอยากอาหารเพิ่มขึ้น และที่สำคัญกว่านั้นเมื่อเรารับประทานน้ำตาลในบริมาณที่มากร่างกายของเราก็จะเปลี่ยนน้ำตาลเก็บไว้ในรูปของไกลโคเจนและไขมันได้อย่างง่าย ๆ เลยค่ะ

ภาพน้ำตาลหลากหลายแบบโดย Ulrike Leone จาก Pixabay

นอกจากกนี้การรับประทานน้ำตาลในบริมาณมาก ๆ ก็จะทำให้โอกาสในการเกิดโรคหลอดเลือด หัวใจ ความดัน เบาหลาน มากขึ้นไปด้วยนะคะ ซึ่งความหวานที่อยู่ในอาหารที่เราเลือกรับประทานระหว่างเทศกาลกินเจอาจจะไม่ได้มาจากน้ำตาลธรรมชาติก็ได้ ยิ่งทำให้เรามีโอกาสอ้วนพร้อมกับโรคต่าง ๆ มากมายที่สามารถเกิดขึ้นกับเราได้ค่ะ ทางที่ดีถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีการเติมน้ำตาลหรือสารให้ความหวานค่ะ

กฎเหล็กข้อ 5: ล้างพิษหลังกินเจ

ในช่วงเทศกาลกินเจที่เราเลือกกินผักและผลไม้เป็นจำนวนมาก ระบบย่อยอาหารของเราก็จะได้พักผ่อนมาระดับนึงแล้ว แต่นกอยากแนะนำให้ทุกคนอดทนต่ออีกนิดนึงด้วยการล้างพิษโดยการอดอาหารหรือใช้วิธีดีท็อกซ์หลังการกินเจเพพื่อให้เราได้ประโยชน์มากขึ้นไปอีก ร่างกายของเราสะอาดมากขึ้นไปอีกค่ะ การเผาผลาญของเราจะดีขึ้นความสบายท้องของเราก็จะเพิ่มมากขึ้นจนเรารู้สึกได้เลยค่ะ


แต่ก็มีหลายคนที่เลือกรับประทานเฉพาะผักหรือผลไม้ในช่วงเทศกาลกินเจแล้วยังอ้วน โดยปรากฎการนี้เรียกว่า Yoyo Effect ค่ะ ซึ่งเป็นภาวะขาดความสมดุลย์ของร่างกายที่เกิดจากการลดน้ำหนักโดยการลดปริมาณอาหารลงอย่างรวดเร็ว ร่างกายของเราก็จะตีความว่าเราอยู่ในภาวะอดอยาก ทำให้ร่างกายลดการเผาผลาญลงและสะสมพลังงานในรูปไขมันมากขึ้นเพื่อเก็บพลังงานไว้ใช้งานให้นานขึ้นในระยะที่ร่างกายเข้าใจว่าเราอดอยาก โดยการลดน้ำหนักโดยการลดอาหารลงอย่างรวดเร็วจะสามารถลดน้ำหนักของเราได้ในระยะแรกเท่านั้น หลังจากนั้นน้ำหนักของเราจะไม่ลดลงในทันที และถ้าเรารับประทานอาหารมากขึ้นเราก็จะไม่สามารถเผาผลาญอาหารไปเป็นพลังงานได้หมดก็จะยิ่งสะสมไว้ในร่างกายของเราง่ายขึ้นมาก ๆ และอ้วนได้ง่าย ๆ เลยค่ะ


มังสวิรัติกับเจต่างกันอย่างไร

การรับประทานอาหารเจคือการรับประทานอาหารที่ต้องละเว้นเนื้อสัตว์ทุกชนิด และมีการละเว้นผักที่มีกลิ่นฉุน 5 ชนิดคือกระเทียมต้นหอม หลักเกียว กุยช่าย และใบยาสูบรวมถึงของมึนเมาด้วยนะคะ ส่วนการรับประทานมังสวิรัติจะแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือแบบที่งดเนื้อสัตว์ทุกชนิดรวมถึงการงดรับประทานผลืตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์อย่างเช่นไข่หรือนมด้วยนะคะ แบบต่อมาจะเป็นการรับประทานมังสวิรัติแบบที่สามารถรับประทานไข่และนมได้ และการรับประทานมังสวิรัติแบบสุดท้ายจะเป็นการรับประทานมังสวิรัติที่งดรับประทานเฉพาะสัตว์ใหญ่เท่านั้น ส่วนกุ้งหรือปลายังรับประทานได้ค่ะ


ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานเจหรือมังสวิรัติเพื่อการลดน้ำหนักก็สามารถทำได้ทั้งนั้นนะคะ อยู่ที่การเลือกรับประทานอาหารที่ดี แหล่งโรตีนที่มีคุณภาพ ลดการรับประทานน้ำตาล แป้งขัดสี และไขมัน ก็จะทำให้เราสามารถควบคุมน้ำหนักของเราได้ไม่ยากเลยค่ะ

นางสาวไทยปี 2541 จบปริญญาเอกสาขาวิทยาศาสตร์การชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง รวมถึงสอบผ่านมาตรฐานผู้มีวิชาชีพด้านสุขภาพวิทยาศาสตร์ชะลอวัยจาก American Board Anti-Aging Health Practitioner สถาบัน A4M และปัจจุบันกำลังศึกษาต่อปริญญาเอกด้าน Anti Aging and Regenerative Science ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ติดตามความเห็น
รูปแบบการแจ้งเตือน
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments