วิตามินและเกลือแร่สำหรับการออกกำลังกาย

การออกกำลังกายที่มีการเคลื่อนไหวอย่างเช่นการชักมวยนอกจากจะมีการใช้พลังานอย่างมากมายและรวดเร็วแล้วร่างกายของผู้เล่นยังมีการเสียวิตามินและเกลือแร่อย่างรวดเร็วเช่นกันค่ะ

ดอกเตอร์จอห์น คูโอโม่ กล่าวว่าวิตามินและเกลือแร่มีบทบาทสำคัญที่จะทำให้นักกีฬาแต่ละคนมีความแข็งแรง มีพลังงานที่มีความสมดุล และมีการเผาผลาญที่ดี เนื่องจากวิตามินและเกลือแร่จะทำงานเกี่ยวโยงกันในร่างกาย หากนักกีฬามีการสูญเสียวิตามินหรือเกลือแร่อย่างใดอย่างหนึ่ง จะมีผลต่อการทำงานของร่างกายทั้งหมดเลยค่ะ

นักกีฬาต้องการสารอาหารในระดับ Optimum Level หรือระดับที่ยอดเยี่ยมที่สุดเพื่อให้สามารถใช้ร่างกายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและการฝึกซ้อมที่หนักนั้นก็ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งหากนักกีฬาไม่มีการกำจัดอนุมูลอิสระที่ดีพอก็จะทำให้ภูมิคุ้มกันของนักกีฬาลดลง

การรับประทานอาหารที่ให้พลังงานสูงสำหรับนักกีฬานั้นไม่เพียงพอ เพราะจะต้องมีการเติมสารต้านอนุมูลอิสระอยางเช่นวิตามินซี วิตามินอี โคคิวเทน และสารอื่น ๆ ที่สำคัญ ดังนั้นนักกีฬาจะต้องได้รับวิตามินคุณภาพสูง

นักกีฬาทั่วไปควรจะได้รับวิตามินเอ 10,000 – 15,000 ยูนิต จากเบต้าแคโรทีน วิตามินซี 500 – 1,500 มิลลิกรัม วิตามินอี 400 อียู วิตามินบีหนึ่งบีสองและบีหก 20 – 30 มิลลิกรัม ไนอะซินอะไมด์ 30 มิลลิกรัม วิตามินบีสิบสอง 120 – 150 ไมโครกรัม รวมถึงต้องเสริมวิตามินดีเพื่อเสริมสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อ แคลเซียมอีก 1,200 มิลลิกรัมจากอาหารและผลิตภัฑ์เสริมอาหาร และยังต้องมีแมกนีเซียมอีก 400 มิลลิกรัมต่อวัน

วิตามินแทบทุกชนิดมีความจำเป็นต่อนักกีฬาขึ้นอยู่กับว่าเป็นกีฬาประเภทไหนและใช้ร่างกายส่วนไหนไปกับกิจกรรมนั้น ๆ และถึงแม้จะมีเรื่องถกเถียงกันว่าควรเลือกรับวิตามินจากอาหารปกติหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดี แต่ที่แน่ ๆ ไม่ว่าทางไหน นักกีฬาต้องมีวิตามินและเกลือแร่ให้พร้อมอยู่เสมอค่ะ

นางสาวไทยปี 2541 จบปริญญาเอกสาขาวิทยาศาสตร์การชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง รวมถึงสอบผ่านมาตรฐานผู้มีวิชาชีพด้านสุขภาพวิทยาศาสตร์ชะลอวัยจาก American Board Anti-Aging Health Practitioner สถาบัน A4M และปัจจุบันกำลังศึกษาต่อปริญญาเอกด้าน Anti Aging and Regenerative Science ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ติดตามความเห็น
รูปแบบการแจ้งเตือน
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments