“ไขมันพอกตับ” กับภัยร้ายแรงที่คุณไม่รู้ตัว (Fatty Liver)

ไขมันพอกตับเป็นภัยที่ร้ายแรงมากนะคะคุณผู้รักสุขภาพทุกท่าน  แต่หลายคนไม่ให้ความใส่ใจกับเรื่องไขมันพอกตับมาก  เพราะไม่ทำให้เกิดการเสียชีวิตโดยตรง  แต่ว่าไขมันพอกตับนี้ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังขึ้นในร่างกาย  ซึ่งการอักเสบเรื้อรังนี่เองที่เป็นสาหตุให้เราเกิดโรคต่าง ๆ  ที่เป็นอัตรายไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ  เบาหลาน ความดัน 

สาเหตุของการเกิดไขมันพอกตับ

การเกิดไขมันพอกตับที่เป็นสาเหตุให้เกิดอักเสบเรื้อรังขึ้นในร่างกายและนำไปสู่โรคอื่น ๆ

สาเหตุหลักในการทำให้เกิดไขมันพอตับเลยก็คือน้ำตาล  เพราะในแต่ละวันสำหรับคนที่ไม่มีการควบคุมอาหารเพื่อลดปริมาณน้ำตาลจะได้รับน้ำตาลเยอะมากในหลากหลายทาง  ซึ่งน้ำตาลจะให้พลังงานอย่างรวดเร็วแต่ร่างกายของคนทั่วไปจะไม่สามารถช้พลังงานนั้นได้หมดทำให้เกิดการสะสมในร่างกาย  และเมื่อมีการสะสมมากขึ้นร่างกายก็จะเปลี่ยนเป็นไขมัน  ซึ่งไขมันเหล่านี้จะสะสมอยู่ตามลำตัวของเรา

น้ำตาลที่ส่งผลเสียกับร่างกายมากที่สุดคือ High Fructose Corn Syrup ที่มักถูกผสมอยู่ในน้ำหวานและเครื่องดื่มสำเร็จรูปต่าง ๆ และมีมากที่สุดในน้ำอัดลมค่ะ  ซึ่งในเครื่องดื่มเหล่านี้มีน้ำตาลสูงถึง 8 – 12 ช้อนชา  ในขณะที่ปริมาณน้ำตาลสูงสุดไม่ควรเกิน 6 ช้อนชาต่อวัน

การตรวจไขมันพอกตับ

วิธีที่เราจะรู้ได้ว่าเรามีไขมันพอตับก็การตรวจที่โรงพยาบาล  ซึ่งวิธีที่ใช้กันมากและง่ายสุดคือการใช้เครื่องอัลตราซาวด์  โดยการตรวจอัลตร้าซาวด์จะเห็นในจอเลยว่ามีมวลไขมันเกาะตับอยู่หรือไม่

มีหลายเหตุผลสำหรับคุณผู้รักสุขภาพที่ต้องกลัวภาวะไขมันพอกตับ  ซึ่งต้นเหตุสำคัญที่เราต้องกลัวภาวะหขมันพอกตับก็คือ  กไขมันส่วนเกิสที่เกาะกับตับนี้จะทำให้ร่างกายของเราเกิดภาวะการอักเสบเรื้อรัง  ซึ่งภาวะการอักเสบเรื้อรังนี้จะนำไปสู่โรคร้ายแรงอีกหลาวอย่าง

ทำไมเราต้องกลัวไขมันพอกตับ

ภาวะดื้ออินซูลินหรือที่เรารูจักกันคือโรคเบาหวานนั้นมีสาเหตุมาจากการเกิดภาวะอักเสบเรื้อรังที่สูงมากยิดต่อกันเป็นเวลานาน  โดยน้ำตาลที่เรารับประทานมากเกินไปในแต่ละวันนั้นเป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะอักเสบเรื้อรังนี้ขึ้นมา

เมือเกิดการสะสมของไขมันบริเวณตับจนเกิดเป็นไขมันพอกตับ  จะทำให้สัดส่วนของไขมันเลวประเภทอื่นเพิ่มขึ้นได้  ไม่ว่าจะเป็นไตรกลีเซอรืไรด์  ไขมัน LDL ในขณะที่ไขมันดีอย่าง HDL กกลับลดลง

เนื่องจากว่าปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดจากขามันพอกตับนั้นมาช้า  เป็นภัยเงียบ  แต่ก็สร้างความเสียหายถึงขั้นหัวใจวายได้เลยนะคะ

ทำอย่างไรให้ใกลจากไขมันพอกตับ

หลีกเลี่ยง High Fructose Corn Syrup. ซึ่งก็มักพบน้ำตาลประเภทนี้ในน้ำหวาน  เครื่องดื่มต่าง ๆ โดยเฉพาะน้ำอัดลม

ลดแป้งขัดขาวในมื้ออาหาร โดยสามารถแทนที่ด้วยผักผลไม้สด ธัญพืช หรือข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสีอย่างเช่นข้าวกล้องหรือข้าวไรซ์เบอร์รี

ลงทุนกับน้ำมันที่ใช้ในการปรุงอาหาร  ใช้นมันมะกอกสำหรับปรุงอาหารที่ไม่ผ่านความร้อน  และอาหารที่ต้องใช้ความร้อนในการปรุงก็สามารถเลือกใช้น้ำมันมะพร้าว น้ำมันเมล็ดชา หรือน้ำมันคาโนล่า ซึ่งน้ำมันเหล่านี้จะมีราคทสูงกว่าน้ำมันทั่วไป  แต่สามารถลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะอักเสบเรื้อรังและเกิดอะนุมูลอิสระจากการปรุงอาหารน้อยมากค่ะ

รับประทานไขมันที่เป็นประโยชน์

หากเราต้องรับประทานไขมันอยู่แล้ว  เราก็ควรเลือกรับประทานไขมันที่เป็นประโยชน์กับร่างกายเลยค่ะ  ไม่ว่าจะเป็นไขมันจากอะโวราโด  หากต้องรับประทานเนยก็เปลี่ยนเป็นการใช้น้ำมันมะพร้าวเทน  และเลือกรับประทานน้ำมันจากปลา  เพราะว่าไขมันเหล่านี้สามารถช่วยบำรุงตับของเรา

ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ใช้สมุนไพรอาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของ NAC, Lipoic Acid , Milk Tistle , Catechin ทั้งหมดนี้จะช่วยให้ตับสร้างสารสำคัญคือ Gutathione.

วิตามินบี  ก็เป็นอีกหนึ่งสารที่สามารถบำรุงตับได้

รับประทานผักช่วยล้างพิษเพื่อไม่ให้ตับทำงานหนักเกินไป

ไขมันพอกตับที่หลาสคนฟังแล้วอาจจะเป็นเรื่องใกลตัว  แต่เมื่อถึงเวลาที่ร่างกายทนไม่ไหวและแสดงอาการของโรคต่าง ๆ ที่มสาเหตุมาจากไขมันพอกตับแล้ว  ไม่ใช่เรื่องใกลตัวเลยค่ะ

7 สมุนไพรห่างใกลไขมันพอกตับ

ในเครื่องครัวในการประกอบมื้ออาหารของเรา  มีหลายสิ่งเลยนะคะที่มีความสามาระในการป้องกันไขมันพอกตับ  และเราสามารถเลือกเครื่งปรุงเหล่านี้ให้อยู่ในมื้ออาหารของเรมได้ค่ะ

ซอสมะขือเทศ

ในมะเขือเทศจะมีไลโคปีนช่วยยับยังการแข็งตัวของหลอดเลือดทำให้หลอดเลือของเรายืดหยุ่นมากขึ้น

พริกไทยดำ

ในพริกไทยดำจะมีสารที่ชื่อว่าไพเพอรีน(Piperine) โดยสารนี้จะสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลที่ผิดปกติ หรือเซลที่มีโอกาสเกิดเป็นเซลมะเร็ง

โรสแมรี่

โรสแมรี่ก็เป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบที่นิยมนำมาตกแต่งอาหาร แต่มีใครรับประทานกันบ้างคะ  เพราะเจ้าโรสแมรี่นี้ก็มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระอยู่ม่น้อยเลยค่ะ

ฮอสแรดิช

ภายในฮอสแรดิชจะมีกลูโคซิโนเลตสูงกว่าบล็อกเคอรี่ถึง 10 เท่าเลยค่ะ  ซึ่งฮอแรดิชสามารถช่วยล้างสารพิษออกจากตับและช่วยยับยั้ง

น้ำมันโอลีฟ 

ในน้ำมันโอลีฟจะมีกรดโอเลอิคหรือโอเมก้า 9 สูงมาก  ช่วยเสริมประสิทธิภาพของสมองเรา  ช่วยให้เรามีความจำที่ดีขึ้น

ซอสพริก

สำหรับคุณผู้รักสุขภาพที่ชอบความเผ็ดร้อนต้องรู้จักกับสารที่มีประโยชน์ภายในพริกอย่างแคปไซซิน () ซึ่งเป็นสารที่ทำให้พริกเผ็ด  โดยจากงานวิจัยพบว่าหากเรารับประทานแคปไซซินก่อนการรับประทานอาหารมื้อหลักก็จะสามารถลดแคลลอรีได้ถึง 16%

อบเชย

อบเชยสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลิน  และสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ด้วยค่ะ  ซึ่งมื้อไหนที่เรารับประทานหวานมาก ๆ ก็ควรจะมีเมนูที่มีส่วนผสมของอบเชยด้วยนะคะ

ปัญหาไขมันพอกตับจะไม่แสดงอาการในระยะเวลาอันใกล้นะคะ  แต่ในระยะที่แสดงอาการแล้ว  เราไม่สามารถทำให้ร่างกายของเรากลับมาทำงานปกติได้เลยค่ะ  นกอยากให้คุณผู้รักสุขภาพทุกท่านป้องกันเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ทั้งตัวเราเองและคนที่เรารัก