น้ำตาลเทียมให้โทษหรือไม่

สารให้ความหวานแทนน้ำตาลประเภทแอสปาแตมเป็นสิ่งที่ใช้กันมาโดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร แต่หากเรารับประทานแอสปาแตมต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ก็อาจจะทำให้เรามีความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งมากขึ้นค่ะ

แอสปาร์แตมทำให้มีโอกาสเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง

ะภายในแอสปาแตมนั้นประกอบด้วยสารเคมีหลัก ๆ อยู่ 3 ตัวคือ กรดแอสปาร์ติก พีนิลอะลานีน เมธานอล โดยถ้าร่างกายของเราได้รับสารทั้งสามตัวนี้เข้าไปในปริมาณมากและไม่สามารภกำจัดออกได้หมด ก็จะเกิดการสะสมของสารเคมีในเนื้อเยื้อและทำให้ DNA ของเซลเราเสียหายก่อให้เกิดความผิดปกติและพัฒนากลายเป็นเซลมะเร็งได้ค่ะ

แอสปาร์แตมเป็นสาเหตุของโรคอ้วนหรือโรคเบาหวาน

ถึงแม้ว่าน้ำตาลเทียมอย่างแอสปาร์แตมจะไม่ให้พลังงานเลยแต่ก็ทำให้เราอ้วนได้นะคะ โดยน้ำตาลเหล่านี้จะมีความหวานมากกว่าน้ำตาลหลายร้อยเท่าในปริมาณเท่ากัน เมื่อเรารับประทานแอสปาร์แตมเป็นเวลานานจะทำให้ร่างกายของเราชินกับความหวานจัด และทำให้เกิดความผิดปกติของฮอร์โมนส์ ซึ่งทำให้เกิดความอยากของหวานมากขึ้นพร้อมกับเมื่อเรากลับไปรับประทานน้ำตาลธรรมชาติก็จะต้องรับประทานหวานมากกว่าปกติ

ถึงแม้ว่าจะมีการอนุญาตให้ใช้แอสปาร์แตมเป็นลายลักษณ์อักษร แต่จากการทดลองในสัตว์บางชนิดแอสปาร์แตมมีผลข้างเคียงถึงขั้นทำให้สัตว์ทดลองเสียชีวิตได้ เนื่องจากแอสปาร์แตมเป็นสารให้ความหวานที่แบคทีเรียไม่สามารถย่อยได้ ทำให้เกิดท้องอืดท้องเฟ้อ

นอกจากนี้การรับประทานแอสปาร์แตมในปริมาณมากเกินไปยังทำให้สมองของเราเสียหายได้ เพราะกรดแอสปาร์ติกสามารถดูดซึมและผ่านเข้าไปในสมองได้ แต่ก็เป็นเรื่องยากที่เราจะหลีกเลี่ยงสารให้ความหวานแทนน้ำตาล ซึ่งหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ไม่ควรรับประทานเป็นประจำนะคะเพื่อให้ร่างกายของเราสามารถขับสารเคมีในแอสปาร์แตมออกได้ทันและเกิดการสะสมในร่างกายน้อยที่สุด

การเสื่อมของเซลสมอง

เมื่อเซลสมองเสื่อมก็จะมีปัญหาเี่ยวกับหลอกเลือดสมองงร่วมด้วย และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอัลไซเมอร์หรือเกี่ยวกับความสามารถในการจำลดลงด้วย โดยเราสามารถสังเกตอาการเริ่มต้นได้จากการที่เราลืมเรื่องราวในกิจวัตรประจำวันที่เป็นความจำระยะสั้นของเรา อย่างเช่นการลืมว่าเอาของไว้ที่ไหน นอกจากนี้การไม่มีสมาธิกับสิ่งที่เราทำอยู่ก็อาจมีสาเหตุมาจากการที่ความจำของเราเริ่มเสื่อมลงได้เช่นกัน ส่วนวิธีการป้องกันนั้นก็มีเรื่องของการนอนที่เราต้องนอนและตื่นให้เป็นเวลา รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่พร้อมเสริมธาตุแาหารต่าง ๆ ที่ร่างกายของเราต้องการให้เพียงพอ จัดการกับความเครียดและความกังวลให้ได้ งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ รวมถึงการดื่มน้ำสะอาดให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 – 10 แก้วก็จะช่วยป้องกันสมองของเราจากโรคความจำเสื่อมได้ และสุดท้ายคือการใช้สมองเป็นประจำไม่ว่าจะเป็นการคิดเลขหรืออื่น ๆ ก็ช่วยป้องกันสมองของเราได้ดีเลย


หากต้องการความหวานที่ให้พลังงานต่ำและไม่เสี่ยงกับการสะสมสารเคมีในร่างกายแล้วล่ะก็ หญ้าหวานเป็นตัวเลือกที่หลายคนเลือกใช้งานรวมถึงตัวนกเอง และแวะมาคุยเรื่องสุขภาพกับนกได้ที่แฟนเพจ Facebook: Health Society by Nok Chalida ที่อินสตาแกรม NokHealthSo หรือ Line Official: @HealthSocieity นะคะ และอย่าลืม Subscribe รายการ Health Society by Nok Chalida ทาง YouTube นะคะ

นางสาวไทยปี 2541 จบปริญญาเอกสาขาวิทยาศาสตร์การชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง รวมถึงสอบผ่านมาตรฐานผู้มีวิชาชีพด้านสุขภาพวิทยาศาสตร์ชะลอวัยจาก American Board Anti-Aging Health Practitioner สถาบัน A4M และปัจจุบันกำลังศึกษาต่อปริญญาเอกด้าน Anti Aging and Regenerative Science ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ติดตามความเห็น
รูปแบบการแจ้งเตือน
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments