เต้าหู้ย่างควินัวสูตรปรุงรสด้วยพริกแกงต้านอักเสบ

เมนูเต้าหู้ย่างควินัวปรุงรสด้วยพริกแกงนี้เป็นเมนูต้านอักเสบมื้อเช้าจากคอร์สอาหารไทยแพลนต์เบสต้านอักเสบวันที่ 22 ที่รังสรรค์โดยเชฟขวัญ และเมนูนี้เป็นหนึ่งในเมนูที่สามารถเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายของเราเพื่อต่อต้านกับไวรัสต่าง ๆ ที่จะเข้ามายังร่างกายของเราด้วยค่ะ

ภาพหลังจากที่นำอาหารต้านอักเสบที่เชฟขวัญส่งให้หน้าตาก็จะออกมาน่ารับประทานแบบรูปด้านบนนี้เลยค่ะสำหรับการต้านอักเสบและเสริมภูมิคุ้มกันต้านไวรัสในมื้อเช้า

การต้านอักเสบในเมนูเต้าหู้ย่างควินัว

พระเอกในการต้านอักเสบสำคัญในเช้าวันนี้ก็คือพริกแกงแดงแบบไทย ๆ นี่เองค่ะ ซึ่งพริกแกงนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยสมุนไพรไทยมากมายที่มีฤทธิ์ในการต้านอักเสบ ต้านไวรัส เสริมภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระ ตามคำแนะนำของกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโคโรนาหรือ COVID-19 ด้วยนะคะ

นอกจากพริกแกงแล้วเรายังมีเต้าหู้เป็นแหล่งโปรตีนหลักสำหรับให้โปรตีนในมื้อเช้านี้ ซึ่งเป็นโปรตีนที่ไม่ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังขึ้นในร่างกายของเราค่ะ

ควินัว (Quinoa) เป็นหนึ่งในซุปเปอร์ฟู้ดที่เป็นทั้งแหล่งโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตไฟเบอร์ในปริมาณที่สูง สามารถช่วยในเรื่องการขับถ่ายและควบคุมน้ำหนักของเราได้ ซึ่งถ้าใครอย่างรู้จักควินัวให้มากขึ้นนกแนะนำบทความนี้เลยค่ะ “สุดยอดอาหารเผาผลาญแคลอรี่

การเสิร์ฟเพื่อประสิทธิภาพในการต้านอักเสบ

องค์ประกอบในจานอาหารสำหรับต้านอักเสบมื้อนี้นอกจากจะมีเต้าหู้ย่างควินัวปรุงรสด้วยพริกแกงแล้ว เราจะต้องรับประทานคู่กับข้าวไรซ์เบอร์รี (หรือข้าวกล้อง) และกะหล่ำปลีลวกด้วยนะคะเพราะทั้งสองสิ่งนี้มีประสิทธิภาพในการเสิร์มภูมิคุ้มกันและต้านอักเสบได้อย่างดีเลยค่ะ

อาหารต้านอักเสบทั้ง 3 มื้อของวันนี้จะมีเต้าหู้ย่างควินัวปรุงรสด้วยพริกแกงสำหรับต้านอักเสบในมื้อเช้า ส่วนมื้อเที่ยงจะมีปลากะพงซอสพริกแกงเหลือง 😋 กับข้าวไรซ์เบอร์รี่ ซอสปรุงรสจัดจ้านด้วย หอมแดง ขมิ้นชัน ตะไคร้ ผักกะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ ต้านอักเสบ ซอสพริกแกงเหลืองที่แนบมาคือตัว ต้านไวรัส ร่วมด้วยช่วยกันต้านอักเสบ กับข้าวไรซ์เบอร์รี่นะคะ และมื้อเย็นจะมีข้าวผัดน้ำพริกลงเรือคู่ผักหลากสี 🥗 เต็มกล่องเลย👍🏻👍🏻👍🏻 ชอบมากค่ะ ปลาสลิดดีมีโปรตีน ข้าวไรซ์เบอร์รี่ผักน้ำพริกกะปิปรุงใหม่ 🍍กะปิเป็นแหล่งแคลเซียมที่ยอดเยี่ยมเพื่อกระดูกก 🦴 ของเรา กินปุ๊บดูดซึมปั๊บ ง่ายกว่าอาหารเสริมซะอีก

นางสาวไทยปี 2541 จบปริญญาเอกสาขาวิทยาศาสตร์การชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง รวมถึงสอบผ่านมาตรฐานผู้มีวิชาชีพด้านสุขภาพวิทยาศาสตร์ชะลอวัยจาก American Board Anti-Aging Health Practitioner สถาบัน A4M และปัจจุบันกำลังศึกษาต่อปริญญาเอกด้าน Anti Aging and Regenerative Science ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ติดตามความเห็น
รูปแบบการแจ้งเตือน
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments