น้ำพริกปลาทูบำรุงสมอง ช่วยหลับสนิท ผ่อนคลาย
เดี๋ยวนี้บ้านเรามีแต่เรื่องชวนเครียด ชวนกังวลใจนะคะ จะเศรษฐกิจ การเมือง เรื่องส่วนตัว หรือเรื่องไหนๆ ก็อาจมีเหตุให้กังวลใจ วิตก จนทำเอาหลายคนนอนไม่หลับกันได้ง่ายๆ แต่การนอนมีผลต่อสุขภาพอย่างที่เราทราบกัน ดังนั้นปักษ์นี้นกมีเมนูอาหารไทยคุ้นครัวที่คุณอาจไม่ทราบว่า ดีต่อสุขภาพการนอนของคุณอย่างมาก นั่นคือ “น้ำพริกปลาทู” นี่ล่ะค่ะ มารู้จักประโยชน์ของเมนูที่คุณคุ้นลิ้นเมนูนี้ และสูตรการปรุงแบบเฮลตี้สไตล์นกพร้อมกันค่ะ
เมนูคู่ครัวผ่อนคลายสมอง
อาหารที่ช่วยสร้างสมดุลการนอนมักประกอบด้วยวิตามินและเกลือแร่สาคัญ 5 ชนิด คือ ทริปโตเฟน วิตามินบี 6 แมกนีเซียม แคลเซียม และวิตามินดี ซึ่งสารอาหารแต่ละชนิดมีบทบาทช่วยส่งเสริมการนอนที่แตกต่างกันดังนี้
ทริปโตแฟน เป็นกรดอะมิโนที่จาเป็นต่อการนอน โดยเมื่อร่างกายต้องการใช้งาน จะเปลี่ยนทริปโตเฟนเป็นสารสื่อประสาทที่ชื่อว่า เซโรโทนิน ซึ่งมีส่วนเสริมสร้างฮอร์โมน ช่วยให้หลับลึก รวมถึงเปลี่ยนเป็นเมลำโทนิน ที่ส่งผลให้ง่วงนอน นอนหลับง่าย และตื่นนอนด้วยความรู้สึกสดชื่น ซึ่งนอกจากจะพบมากในกล้วย กีวี สับปะรด และแตงโมแล้ว ยังพบมากในปลาแซลมอน ปลาฮาลิบัท ปลาทูน่า และปลาไทยอย่างปลาทู ปลากะพง และในกุ้งทะเลอีกด้วย
ต่อมาคือ วิตำมินบี 6 ซึ่งให้ผลต่อการนอนคล้ายกับทริปโตเฟน โดยร่างกายจะเปลี่ยนวิตามินบี 6 เป็นเมลาโทนิน ซึ่งนอกจากช่วยเยียวยาปัญหานอนไม่หลับได้แล้ว ยังช่วยลดอาการซึมเศร้า อารมณ์แปรปรวนได้
แมกนีเซียม ก็เป็นสารอาหารสาคัญที่ช่วยให้หลับดี เพราะแมกนีเซียมปิดการกระตุ้นอะดรีนาลีนซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทาให้อารมณ์โกรธและความรู้สึกเคร่งเครียดเข้มข้นขึ้น ยิ่งคนที่เครียดจนตัดวางความคิดวิตกกังวลไม่ได้แม้แต่ในช่วงเวลาหลับ แมกนีเซียมก็จะช่วยให้สมองสงบลง และผ่อนคลายขึ้น
ตัวช่วยสาคัญอีกตัวคือ แคลเซียม เพราะเป็นตัวช่วยในการสร้างเมลาโทนิน คนที่กินแคลเซียมในระดับที่เหมาะสมจึงมักไม่ตื่นกลางดึก และหลับง่ายขึ้น
ท้ายที่สุดคือ วิตำมินดี ซึ่งแม้จะไม่เกี่ยวกับการนอนโดยตรง แต่หากร่างกายได้รับวิตามินดีไม่เพียงพอ ร่างกายก็จะดูดซึมแคลเซียมได้ไม่ดี และส่งผลต่อการนอนเช่นกัน และที่สาคัญ เมนูน้าพริกปลาทูของเราในวันนี้ ยังมีส่วนผสมซึ่งเป็นสมุนไพรต้านอักเสบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพริกขี้หนู หอมแดง และกระเทียม
นอกจากนี้เนื้อปลาทูมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย ส่งเสริมการทางานของสมอง และต้านการอักเสบในระดับเซลล์ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ประโยชน์มากมายขนาดนี้ ถึงเวลาที่เราจะมาลงมือทากันแล้วค่ะ
ส่วนประกอบในการทำน้ำพริกปลาทู
➀ เนื้อปลาทูแกะก้างออก 1 ถ้วย
➁ พริกขี้หนู 10 เม็ด
➂ หอมแดง 4 – 5 หัว
➃ กระเทียม 5 กลีบ
➄ น้าปลา 2 ช้อนโต๊ะ
➅ น้ำมะขาม 2 ช้อนโต๊ะ
➆ น้ำสะอาด 1 ถ้วย
วิธีทำน้ำพริกปลาทูสูตรบำรุงสมอง
➀ นำปลาทู น้าปลา น้ามะขาม และน้าสะอาด มาผสมเข้าด้วยกัน จากนั้นตั้งไฟให้เดือด แล้วพักไว้
➁ นำพริกขึ้หนู หอมแดง และกระเทียม มาโขลกให้ละเอียด
➂ นำส่วนผสมชุดแรกที่ต้มแล้ว มาผสมคลุกให้เข้ากัน เสิร์ฟพร้อมผักสดหลากสีเป็นผักเคียง
อย่าลืมนำสูตรนี้ไปทดลองทำให้คนที่คุณรักกินดูนะคะ รับรองว่ำ นอกจำกจะติดใจแล้ว ยังได้สุขภำพที่ดีเป็นของแถมแน่นอน

กรดไขมันโอเมก้ำ 3 และ 6 ในปลำทะเลไทย
นกขอแถมข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับชนิดของปลาไทยที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 และกรดไขมันโอเมก้า 6 ปริมาณสูง รวบรวมโดย ดร.ครรชิต จุดประสงค์ ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ไว้เผื่อเป็นข้อมูลสาหรับเลือกเมนูปลาเพื่อมาปรุงอาหารเพื่อดูแลสมองและป้องกันการอักเสบดังนี้ค่ะ
ปลาไทย | ไขมันรวม | โอเมก้ำ 3 | โอเมก้ำ 6 |
ปลาจะละเม็ดขาว | 6.8 | 0.84 | 0.03 |
ปลาสาลี | 9.2 | 0.47 | 0 |
ปลากะพงขาว | 3.2 | 0.40 | 0 |
ปลาอินทรี | 3.6 | 0.33 | 0 |
ปลาทูสด | 3.8 | 0.22 | 0.06 |
ปลาทูนึ่ง | 3.0 | 0.18 | 0.03 |
ปลาจะละเม็ดดา | 3.6 | 0.16 | 0 |
ปลากะพงแดง | 0.5 | 0.10 | 0 |
ปลาเก๋า | 0.8 | 0.08 | 0 |