“ต้มข่าเทมเป้” ดูแลระบบย่อยอาหารให้แข็งแรง

     คุณแฟน ๆ คอลัมน์ทั้งหลายคงทราบดีว่านกมีเมนู “อาหารไทยต้านอักเสบ” มานำเสนอเสมอ  ส่วนใหญ่จะเป็นเมนูที่คุ้นลิ้นชินตากันอยู่แล้ว  แต่นกปรับส่วนผสมและเติมดีไซน์ให้อาหารไทยทำง่ายเหล่านี้  ทั้งอร่อยและได้คุณค่าในการต้านอักเสบอย่างสูงสุดไปพร้อมกัน …ปักษ์นี้ก็เช่นเดียวกันค่ะ “ต้มข่า” มานาเสนอ  แต่ต้มข่าในสไตล์นกจะเป็นอย่างไร กินอร่อยและเติมเต็มสุขภาพแค่ไหน ไปติดตามกันนะคะ

อร่อยรสไทย เยียวยาลำไส้ ระบบย่อย

     ในงานครัวไทยเราใช้ข่าในลักษณะคล้ายคลึงกับขิง เพราะเป็นพืชเหง้าที่มีรสเผ็ดร้อน ต่างกันตรงข่ามีรสเผ็ดซ่ามากกว่า และมีประโยชน์ในการดูแลระบบย่อยอาหาร กระตุ้นการสร้างน้ำย่อย และช่วยให้เจริญอาหาร เพราะอย่างนี้ภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยแต่โบราณจึงใช้ข่าในการรักษาโรคเบื่ออาหาร แก้อาการอาหารไม่ย่อย และเยียวยาโรคลำไส้ รวมถึงอาการจุกเสียด ปวดท้องได้เป็นอย่างดี

     นอกจากนี้ ในสมัยก่อนแพทย์แผนไทยยังใช้ข่าเป็นสมุนไพรลดไข้ บรรเทาปวด แก้อาการเมารถ เมาเรือ คลื่นเหียนอาเจียน แพ้ท้อง เช่นเดียวกับขิง อีกทั้งข่ายังมีคุณสมบัติในการลดการอักเสบจากแบคทีเรียและเชื้อราได้อีกด้วย

     เมื่อเสริมแรงกับสมุนไพรอื่นไ ที่อยู่ในเมนูต้มข่า ไม่ว่าจะเป็นตะใคร้ ใบมะกรูด ผักชี กะทิ เห็ด และพริกขี้หนูสด ทาให้ต้มข่าชามนี้เป็นเมนูที่ดีในการต้านอักเสบจนถึงระดับเซลล์ทีเดียวค่ะ
พระเอกเจ้าประจาอีกอย่างที่หากใครเป็นแฟนคอลัมน์นี้จะทราบว่านกเลือกมาประกอบเมนูบ่อยคือ เทมเป้ เป็นส่วนประกอบในเมนูอาหารต้านอักเสบบ่อยมากๆ แม้จะทราบว่า คนรักสุขภาพบ้านเราอาจรู้จักเทมเป้ไม่เยอะนัก แต่เพราะนกมองเห็นประโยชน์ที่มีมากมายของเทมเป้ ทั้งเป็นโปรตีนที่ดี มีแคลเซียม มีกรดไขมันอิสระ (free fatty acid) รวมถึงมีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่ช่วยลดการอักเสบในเซลล์ และช่วยชะลอความชราได้ จะไม่ให้นกนามาเป็นส่วนประกอบหลักของเมนู แนะนากับคุณผู้อ่านได้อย่างไรคะ

HEALTHY TIPS

     – เคล็ดลับเพิ่มความอร่อยของเทมเป้ทาได้ไม่ยากนะคะ ปกติเทมเป้หากต้มนานอาจนิ่ม หรือดูยุ่ยไม่น่ากิน แนะนำให้นำเทมเป้ไปย่างไฟอ่อนให้ออกสีน้ำตาลสวย การย่างจะทำให้เทมเป้ค่อนข้างแห้ง เมื่อนามาปรุงเป็นต้มข่าจึงไม่เละ แถมยังช่วยเพิ่มกลิ่นหอมชวนกินอีกด้วย

     – ส่วนเคล็ดลับการเลือกเทมเป้ ตัวนกเองจะเลือกจากแหล่งผลิตที่เป็นออร์แกนิก เพราะหลายคนอยากดูแลสุขภาพจึงหันมาเลือกเมนูจากพืช แต่หากท้ายที่สุดแล้วต้องมาเจอกับถั่วเหลืองตัดแต่งพันธุกรรม หรือที่เราเรียกกันอย่างคุ้นหูว่า “ถั่วเหลืองจีเอ็มโอ” ก็เท่ากับว่าที่ทำมานั้นสูญเปล่า ดังนั้นทางที่ดีควรเลือกเทมเป้ที่การรับรองความเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกถูกต้อง ซึ่งปัจจุบันมีทั้งที่รับรองโดยหน่วยงานในประเทศไทยและมาตรฐานรับรองจากต่างประเทศ หรืออาจใช้เทมเป้จากถั่วชนิดอื่น ที่ไม่มีปัญหาการตัดแต่งพันธุกรรม เช่น ถั่วชิกพี ถั่วดา ก็ได้เช่นกันค่ะ …แต่สาหรับเมนูนี้ บอกเลย เทมเป้ถั่วเหลืองนี่แหละเหมาะแล้ว!

ว่าแล้วเรามาลงมือทาเมนูนี้กันเลยค่ะ…

ส่วนประกอบต้มข่าเทมเป้

– น้ำเปล่า 1½ ถ้วย
– ข่า (หั่นเป็นแว่นๆ) 5 แว่น
– ตะไคร้ (ซอยบาง) 2 ต้น
– ใบมะกรูด (หั่นครึ่ง) 4 ใบ
– ผักชี (หั่นท่อนขนาด 2 เซนติเมตร) ½ ถ้วย
– เทมเป้ถั่วเหลืองผสมถั่วดา หันชิ้นพอคา 1 ก้อน
– น้ำปลา 1/3 ถ้วย
– น้ำตาลมะพร้าว 1 ½ ช้อนโต๊ะ
– กะทิ 1 ½ ถ้วย
– เห็ด (เลือกชนิดตามชอบ) ½ ถ้วย
– น้ำมะขามเปียก ½ ถ้วย
– พริกขี้หนูสด (ทุบพอแตกผ่าครึ่ง) ประมาณ 4 เม็ด

วิธีทำต้มข่า

1. นาน้ำเปล่าใส่หม้อขนาดพอดี จากนั้นตั้งไฟ
2. นำข่า ตะใคร้ ใบมะกรูด กะทิ และเห็ดใส่หม้อ รอให้เดือด
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว น้ำมะขามเปียก และพริกขี้หนูสด ชิมรสตามชอบ
4. ใส่เทมเป้ รอเดือด ปิดไฟ โรยผักชีตบท้าย


เห็นไหมคะ ทาง่ายจริงๆ ด้วย แต่ที่พิเศษสุดคือ เป็นเมนูไทยทำง่ายที่ให้ประโยชน์สูงนี่แหละ
เมนูหน้านกจะมีเมนูอร่อยง่ายแบบไทยแท้เมนูไหนมาแนะนำ …บอกเลย ต้องติดตามค่ะ

นางสาวไทยปี 2541 จบปริญญาเอกสาขาวิทยาศาสตร์การชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง รวมถึงสอบผ่านมาตรฐานผู้มีวิชาชีพด้านสุขภาพวิทยาศาสตร์ชะลอวัยจาก American Board Anti-Aging Health Practitioner สถาบัน A4M และปัจจุบันกำลังศึกษาต่อปริญญาเอกด้าน Anti Aging and Regenerative Science ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ติดตามความเห็น
รูปแบบการแจ้งเตือน
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments