แก้ปัญหาริมฝีปากแตกแห้ง

     เข้าสู่หน้าหนาวปัญหาที่คุณสาว ๆ พบเจออยู่บ่อย ๆ คงหนีไม่พ้นอาการปากแห้ง เป็นขุย ทาลิปสติกไม่สวยงามนะคะ วันนี้นกเลยมีวิธีที่จะจัดการกับอาการปากแห้งเป็นขุยมาฝากคุณผู้อ่านกันค่ะ

สาเหตุทำให้ริมฝีปากแห้ง

     ริมฝีปากนับเป็นส่วนประกอบสำคัญบนใบหน้า ที่ช่วยเสริมบุคลิกของเราให้น่ามองมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเมื่อริมฝีปากมีปัญหาจึงเป็นเรื่องที่ทำให้สาวๆขาดความมั่นใจ และทำให้เสียบุคลิกภาพด้วย ปัญหาของริมฝีปากที่พบบ่อยเห็นทีจะหนีไม่พ้น“ริมฝีปากแห้งแตก ลอกเป็นขุย” ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในฤดูหนาว แต่บางครั้งปัญหาริมฝีปากแห้งก็อาจขึ้นในฤดูอื่นๆ ได้เช่นกัน เพราะสาเหตุที่ทำให้เกิดริมฝีปากแห้งแตกนั้นมาจากหลายปัจจัย ดังนี้

➀ สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง

     สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เช่น อากาศหนาวจัด ทำให้ริมฝีปากสูญเสียความชุ่มชื้น เกิดการลอกเป็นขุย

➁ การเลียริมฝีปาก

     การเลียริมฝีปากบ่อยๆ รวมถึงการเม้มปาก เอนไซม์ที่ช่วยในการย่อยอาหารที่อยู่ในน้ำลายสามารถทำลายความชุ่มชื้นบนริมฝีปากได้

➂ แพ้แสงแดด

     แพ้แสงแดดมักพบบริเวณริมฝีปากล่าง ซึ่งเกิดเนื่องจากการถูกแสงแดดนาน

➃ แพ้อาหารและผลไม้บางชนิด

     การแพ้อาหารหรือผลไม้เมื่อสัมผัสบริเวณฝีปาก อาจก่อให้เกิดการแพ้แบบลมพิษเฉพาะที่ และเมื่อเป็นเรื้อรังริมฝีปากจะแห้งแตกเป็นขุยได้เช่นกัน

➄ การดื่มน้ำน้อยเกินไป

     การดื่มน้ำน้อยเกินไปก็เป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ริมฝีปากแห้งได้ เพราะร่างกายต้องได้รับน้ำเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของร่างกาย

➅ การขาดสารอาหาร

     การขาดสารอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการขาดวิตามินซีจนทำให้เป็นโรคลักปิดลักเปิด ขาดวิตามินบีจนทำให้เป็นโรคปากนกกระจอก ขาดวิตามินแล้วทำให้ปากแห้ง ผิวหยาบ

➆ โรคผิวหนังบางชนิด

     โรคผิวหนังบางชนิด เช่น โรคแพ้ภูมิตัวเอง โรคผิวหนังอักเสบ ทำให้เกิดผื่นผิวหนังบริเวณริมฝีปากได้เช่นกัน และมักมีผื่นผิวหนังบริเวณส่วนอื่นของร่างกายร่วมด้วย

➇ การแพ้ลิปสติก

     การแพ้ลิปสติกที่มีส่วนผสมทำให้เกิดปัญหา เช่น สี กลิ่น น้ำหอม ลาโนลิน สารให้ความชุ่มชื้น สารกันแดด สารกันบูด menthol หรือโลหะที่ผสมอยู่ในลิปสติก โดยอาการแพ้สามารถสังเกตได้จากอาการมีขุยคันเป็นๆ หายๆ พบได้ทั้งบริเวณริมฝีปากบนและริมฝีปากล่าง แต่ในกรณีที่มีอาการแพ้มากอาจเกิดเป็นลักษณะริมฝีปากอักเสบ บวม หรือหายใจไม่ออก

➈ ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปาก

     ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์หรือแอลกอฮอล์ในปริมาณสูง (พบได้บ่อยว่าทำให้เกิดอาการแพ้) สารทำให้เกิดฟอง สารที่มีรสเผ็ดซ่าในยาสีฟัน และสารสร้างความสดชื่น สิ่งเหล่านี้ก็ทำให้ปากแตกได้เช่นกันส่วนมากแล้วจะเกิดขึ้นเมื่อเปลี่ยนไปใช้ยาสีฟันยี่ห้อใหม่ รวมไปถึงน้ำยาบ้วนปากที่เกิดจากการแพ้สารแต่งรส แต่งกลิ่น menthol ด้วยค่ะ

วิธีรักษาริมฝีปากแห้ง

• หาสาเหตุของปัญหา สำรวจดูว่าปัญหาปากแห้งแตกนั้นเกิดมาจากสาเหตุใดดังกล่าว เช่น หน้าหนาว เกิดจากการดื่มน้ำน้อย ชอบเลียริมฝีปากตัวเอง ฯลฯ เมื่อพบต้นตอของปัญหาแล้วก็ให้ทำการแก้ไขที่ต้นเหตุนั้น
• ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว และทำอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ทุกส่วนของผิวหนังรวมทั้งริมฝีปาก อาการริมฝีปากแห้งจะค่อยดี ๆ ขึ้นเอง
• ห้ามแกะห้ามลอกริมฝีปากออกมาเป็นแผ่นๆ ห้ามมากๆ เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบ ลุกลาม และเป็นแผลมากขึ้น
• หลีกเลี่ยงสารสัมผัสที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น ลิปสติกหรือยาสีฟัน โดยการปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่มีผลต่อริมฝีปากของเรา อย่างลิปสติกให้เลือกใช้สีอ่อนๆ เพราะปริมาณเม็ดสีจะน้อยกว่าแบบสีเข้ม ส่วนยาสีฟันจะหันมาใช้ยาฟันที่เป็นสมุนไพร หรือออร์แกนิค หรือเลือกใช้ให้เหมาะกับเราเป็นหลัก
• น้ำผึ้งแท้ ด้วยคุณสมบัติพิเศษในน้ำผึ้งแท้ที่เป็นยาฆ่าเชื้ออ่อนๆ ในตัวเอง มันจึงนำมาใช้รักษาอาการแตกของริมฝีปาก ริมฝีปากแห้ง หรือริมฝีปากลอกได้ดี วิธีใช้ก็ง่ายดายมากๆ แค่ใช้สำลีหรือคอตตอนบัดจุ่มลงไปในน้ำผึ้งแท้แล้วนำมาทาเบาๆ ให้ทั่วริมฝีปากทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วค่อยเช็ดออกเบา ๆ
• น้ำเกลือ หากปากเป็นขุย ให้คุณใช้สำลีแผ่นซับน้ำเกลือให้ชุ่ม แล้วนำไปคาบโดยเม้มปากเบาๆ เสร็จแล้วเช็ดให้ทั่วริมฝีปาก ขุยต่างๆ ที่ลอกก็จะหลุดออกมา

     แน่นอนว่าไม่มีใครปรารถนาที่จะมีริมฝีปากแห้งแตกลอกเป็นขุย ดังนั้นการหันมาดูแลริมฝีปากของตัวเองอย่างจริงจัง จะช่วยทำให้คุณดูดีมีเสน่ห์มากขึ้นจนเป็นที่สะดุดตาอย่างแน่นอนค่ะ  แวะมาคุยเรื่องสุขภาพกับนกได้ที่แฟนเพจ Facebook: Health Society by Nok Chalida ที่อินสตาแกรม NokHealthSo หรือ Line Official: @HealthSocieity นะคะ และอย่าลืม Subscribe รายการ Health Society by Nok Chalida ทาง YouTube นะคะ