ชอบจุดเทียนหอมในห้องต้องระวัง
ชอบจุดเทียนหอมในห้องต้องระวัง สารเคมีในเทียน เปลี่ยนเป็นสารก่อมะเร็งได้ ! คุณผู้อ่านเป็นคนนึงที่ชอบสร้างบรรยากาศดี ๆ หอม ๆ ในบ้าน โดยเฉพาะในห้องนอนแอร์เย็นฉ่ำไหมค่ะ ? กลิ่นหอม ๆ นี่ถือว่าเป็นการช่วยบำบัดความเครียด สร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลายได้นะคะ แต่วันนี้คอลัมน์สุขภาพดีเข้าเส้น มีข้อควรที่ต้องระวังในการจุดเทียนหอม เพราะมีสารเคมีที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้ เพราะอะไร ไปอ่านกันเลยค่า
“สารเคมีในเทียน เปลี่ยนเป็นสารก่อมะเร็งได้ !”
เทียนหอมระเหย เป็นหนึ่งในเครื่องหอมที่หลาย ๆ คนชื่นชอบและนำมาใช้จุดเพื่อผ่อนคลาย ลดความเมื่อยล้า ซึ่งก็มีหลายกลิ่นให้เลือกตามใจชอบ แต่รู้หรือไม่ว่า เจ้าเทียนหอมนี้อาจจะไม่ได้ดีอย่างที่เราคิดเสมอไป อย่างที่ผลวิจัยล่าสุดที่เว็บไซต์เดลี่เมลนำมาเปิดเผย พบว่าเมื่อจุดเทียนแล้ว สารเคมีที่อยู่ในเทียนหอมระเหยจะไปทำปฏิกิริยากับอากาศกลายเป็นสารก่อ มะเร็งสุดอันตราย แถมยังเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งได้อีกเพียบ

ศาสตราจารย์ Alastair Lewis แห่ง National Centre for Atmospheric Science จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก เปิดเผยผลการวิจัยที่น่าตกใจว่า การจุดเทียนหอมระเหยในห้องที่ไม่มีอากาศถ่ายเท จะทำให้ ผู้อยู่อาศัยเสี่ยงต่อการได้รับสารเคมี ที่มาจากเทียนหอมระเหย ซึ่งไปทำปฏิกิริยากับอากาศจนกลายเป็นสารก่อมะเร็งได้
โดยสารที่พบเป็นสารเคมีในกลุ่มสารเคมีไอระเหย (Volatile organic chemicals หรือ VOCs) ได้แก่ สารเบนซินซึ่งมักพบในควันพิษจากท่อไอเสีย, สารอัลฟาไพนีน (alpha – pinene) พบมากในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด นอกจากนี้ก็ยังพบสารไลโมนีน (Limonene) ที่ถึงแม้จะมีคุณสมบัติในการสร้างกลิ่นหอม แต่เมื่อเกิดการรวมตัวของสารชนิดนี้ 2 โมเลกุลเข้าด้วยกันแล้วจะกลายสภาพเป็นฟอร์มาดีไฮด์ (Formaldehyde) ซึ่งจะมีความอันตรายมากขึ้นกว่าเดิม
โดยสารที่พบเป็นสารเคมีในกลุ่มสารเคมีไอระเหย (Volatile organic chemicals หรือ VOCs) ได้แก่ สารเบนซินซึ่งมักพบในควันพิษจากท่อไอเสีย, สารอัลฟาไพนีน (alpha – pinene) พบมากในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด นอกจากนี้ก็ยังพบสารไลโมนีน (Limonene) ที่ถึงแม้จะมีคุณสมบัติในการสร้างกลิ่นหอม แต่เมื่อเกิดการรวมตัวของสารชนิดนี้ 2 โมเลกุลเข้าด้วยกันแล้วจะกลายสภาพเป็นฟอร์มาดีไฮด์ (Formaldehyde) ซึ่งจะมีความอันตรายมากขึ้นกว่าเดิม
ซึ่งโทษของเจ้าฟอร์มาดีไฮด์นั้นเป็นหนึ่งในสารก่อมะเร็ง โดยเฉพาะโรคมะเร็งจมูกและโรคมะเร็งคอ อีกทั้งยังส่งผล กระทบต่อสุขภาพได้อย่างร้ายแรง หากได้รับเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่มากจนเกินไป โดยอาจทำให้เกิดอาการเจ็บคอ ไอเป็นเลือด ระคายเคืองตา และเลือดกำเดาไหล นอกจากนี้ไม่ว่าจะเป็นฟอร์มาดีไฮด์หรือไลโมนีน ก็ไม่สามารถจะสลายหายไปเองได้ และจะยิ่งสะสมมากขึ้นหากบริเวณเหล่านั้นไม่ได้มีการถ่ายเทอากาศที่ดี

ทราบถึงความอันตรายของสารชนิดนี้กันแล้ว ใครที่ชอบจุดเทียนหอมระเหยในห้องที่ปิดทึบ ควรเลี่ยงอย่างเด็ดขาดเลย แม้ว่าจะช่วยให้กลิ่นหอมมากขึ้น แต่เบื้องหลังกลิ่นหอมเหล่านั้นก็อาจจะนำมาสู่ภัยสุขภาพในอนาคตได้ หากต้องการใช้เทียนหอมควรจุดในสถานที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวกดีกว่านะคะ รู้เรื่องนี้แล้วนกต้องรีบบอกต่อเลยเพร่ะตัวเองเป็นคนชอบจุดเทียนหอมมาก โดยเฉพาะหลังทำกับข้าวกลิ่นอาหารตลบไปทั้งบ้าน ต้องคอยเตือนตัวเองว่า อย่าจุดบ่อย และต้องเปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทค่ะ
แวะมาคุยเรื่องสุขภาพกับนกได้ที่แฟนเพจ Facebook: Health Society by Nok Chalida ที่อินสตาแกรม NokHealthSo หรือ Line Official: @HealthSocieity นะคะ และอย่าลืม Subscribe รายการ Health Society by Nok Chalida ทาง YouTube พร้อมติดตามเรื่องราวสุขภาพ “เฮลท์โซไซตี้” ด้วยกันนะคะ