ลำไส้รั่วคืออะไร

คุณผู้อ่านเป็นคนที่มีไลฟสไตล์จัดหนักมั้ยคะ เช่นชอบกินหวานจัด ดื่มกาแฟและแอลกอฮอล์จัดว่าเป็นขาประจำ และการงานทำให้ เครียดจัดอยู่บ่อยๆ แต่รู้มั้ยว่าลำไส้ของเราคงไม่ชอบไลฟสไตล์แบบนี้เป็นนิจแน่นอน หากมีไลฟสไตล์จัดหนักบ่อยๆ ระวังลำไส้จะรั่วประท้วงเรานะคะ

​ลำไส้รั่วในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงลำไส้ทะลุนะคะ  แต่เรียกให้ถูกคือลำไส้รั่วซึม เกิดจาก ลำไส้ทำงานผิดพลาด ไม่สามารถแยกแยะการดูดซึมหรือคัดกรองสารอาหารหรือสารพิษต่างๆ เข้าสู่ร่างกายได้ จึงเกิดปัญหาตามมา ซึ่งเราเรียกภาวะความผิดปกติแบบนี้ว่า “Leaky Gut syndrome” หรือ “ลำไส้รั่วซึม” นั่นเอง

ภาวะลำไส้รั่วซึมนี้ เซลล์จะยอมให้ อาหารที่ย่อยไม่สมบูรณ์ สารพิษ แบคทีเรีย หลุดผ่านผนังลำไส้และเข้าสู่กระแสเลือดได้

ของเสียเมื่อเข้าสู่กระแสเลือด ก็เปรียบเหมือนเป็นสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย ร่างกายก็จะปฏิเสธและต่อต้าน ด้วยการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ทำงานหนักขึ้น เพื่อมาต่อต้าน ผลที่ตามมาก็คือ อาการอันไม่พึงประสงค์ ส่งผลเสียต่อร่างกาย ตัวอย่างเช่น

  • เหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
  • ไวต่อการเกิดปฏิกิริยากับอาหาร แพ้อาหารหลายชนิด
  • อักเสบเรื้อรัง ปวดข้อ ข้ออักเสบ
  • ปวดท้อง ท้องผูก ท้องเสีย
  • ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย
  • ผื่นแพ้ไม่ทราบสาเหตุ สิวเรื้อรัง ผิวหนังอักเสบ
  • หงุดหงิด ซึมเศร้า อารมณ์แปรปรวน
  • สมาธิสั้น ความจำไม่ดี
  • หายใจเร็วตื้น หายใจไม่อิ่ม
  • ​เหนื่อยง่าย ออกกำลังกายไม่ทน
  • ระบบภูมิคุ้มกันแปรปรวน โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง

การมีสุขภาพลำไส้ที่ดี ก็จะเป็นพื้นฐานของการมีสุขภาพที่ดี มาดูแนวทางการรักษาภาวะลำไส้รั่ว ด้วย4R ดังนี้

Remove: คือ การหลีกเลี่ยงหรือกำจัดต้นเหตุที่ทำลายลำไส้

เป็นสิ่งแรกที่ควรปฏิบัติ กำจัดทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เกิดภาวะลำไส้รั่ว เช่น แอลกอฮอล์ กลูเตน(สำหรับผู้ที่แพ้โปรตีนข้าวสาลี) ยาปฏิชีวนะ ยาต้านการอักเสบแบบไม่ใช่สเตียรอยด์(NSAID) และอาหารที่แพ้ ซึ่งเราจะทราบได้จากการไปตรวจเลือด เพื่อจะได้ทราบว่าอาหารชนิดใดบ้างที่รับประทานได้ ชนิดใดบ้างที่ควรงดและหลีกเลี่ยง

Replace: แทนที่ด้วยอาหารที่ช่วยซ่อมลำไส้

เพิ่มอาหารหรือสารที่ทำให้เกิดกระบวนการย่อยอาหารได้อย่างสมบูรณ์ โดย

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ และเพิ่มการทานกากใยอาหาร เพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายของเสียทำงานอย่างเป็นปกติ เช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง คีนัว ไซเลียมฮัสก์(Psyllium Husk) ผักผลไม้ชนิดต่างๆ
  • เอนไซม์ช่วยย่อย เช่น กรดไฮโดรคลอริก บีเทน(Betain เอนไซม์ช่วยย่อยจากสับปะรด)หรือสมุนไพรที่ช่วยการทำงานของลำไส้

Repopulate: เสริมสร้างแบคทีเรียชนิดดี และอาหารของมัน เพื่อปรับสมดุลของลำไส้ เช่น การรับประทานอินนูลิน

  • อินนูลิน เป็นเส้นใยอาหารที่ละลายน้ำได้ ปกติร่างกายจะย่อยและดูดซึมไม่ได้ แต่เหมาะสำหรับเป็นแหล่งอาหารของแบคทีเรียชนิดดี
  • อินนูลินพบได้ในพืชหลายชนิด เช่น ชีคโอะริ(Chicory), หัวหอม, หน่อไม้ฝรั่ง, แก่นตะวัน(Jerusalem artichoke)

Repair: ซ่อมแซมด้วยอาหารเสริม

ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนสุดท้าย เป็นการให้สารอาหารหลากหลายชนิดที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการซ่อมแซม และฟื้นฟูผนังลำไส้ให้กลับคืนสภาพที่สมบูรณ์และแข็งแรงดังเดิม ดังนี้

  • วิตามินต่างๆ เช่น วิตามินเค วิตามินซี วิตามินอี เบต้าแคโรทีน กรดโฟลิค
  • สารแอนตี้ออกซิแดนท์ เช่น เซเลเนี่ยม แคโรทีนอยด์ กลูตามีน แกมมาออริซานอล ซิงค์ กรดไขมันจำเป็น เช่น โอเมก้า3

พอรู้แบบนี้แล้วเรายิ่งต้องดูแลลำไส้ของเราให้ดีนะคะ อาทิตย์หน้ามาทำความรู้จักกับ โพรไบโอติคส์ เชื้อจุลินทรีย์ที่ดีต่อลำไส้กันบ้าง

นางสาวไทยปี 2541 จบปริญญาเอกสาขาวิทยาศาสตร์การชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง รวมถึงสอบผ่านมาตรฐานผู้มีวิชาชีพด้านสุขภาพวิทยาศาสตร์ชะลอวัยจาก American Board Anti-Aging Health Practitioner สถาบัน A4M และปัจจุบันกำลังศึกษาต่อปริญญาเอกด้าน Anti Aging and Regenerative Science ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ติดตามความเห็น
รูปแบบการแจ้งเตือน
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments