ห้ามใช้ “คอตตอนบัด” เช็ดหู จริงหรือไม่ ?

     สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านทุกท่าน พบกันวันอาทิตย์เช่นเคยนะคะ ในคอลัมน์ สุขภาพดีเข้าเส้น หนังสือพิมพ์คมชัดลึก วันนี้นกขอเริ่มต้นด้วยเพลงฮิตที่อาจจะยังติดอยู่ในใจหลายๆ ท่านนะคะ นั่นก็คือเพลง “คันหู ไม่รู้เป็นอะไร เอาสำลีมาปั่นก็ไม่หาย” หากใครฟังเพลงนี้แล้วอินมาก จะปั่นหูด้วยสำลี นกจะร้องห้ามทันทีนะคะ มาอ่านกันค่ะว่าทำไม ?

     ทุกคนคงคุ้นเคยกับคอตตอนบัด หรือ ไม้พันสำลี กันนะคะ แล้วเราใช้คอตตอนบัดทำอะไรกันบ้าง แน่นอนค่ะ หนึ่งในคำตอบนั้น คือใช้ทำความสะอาดรูหู ซึ่งเรามักจะใช้มันในการแคะขี้หูบ้าง ปั่นแก้คันบ้าง และที่จริงแล้ว คอตตอนบัด ห้ามนำมาเช็ดหูจริงหรือไม่ เรามีคำตอบค่ะ

     ปกติแล้วทางการแพทย์ “ไม่แนะนำ” ให้ใส่คอตตอนบัด หรือสิ่งใดๆ เข้าไปในรูหู เพราะว่าขี้หู หรือ earwax เป็นเรื่องธรรมชาติที่หูจะผลิตออกมา เพื่อป้องกันสิ่งแปลกปลอม เข้าไปในหู และโดยธรรมชาติขี้หูจะผลิตออกมา เพื่อป้องกันสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในหู และโดยธรรมชาติขี้หูจะค่อยๆ เคลื่อนออกมาเอง ไม่จำเป็นต้องแคะหรือปั่นออกมา แต่โดยทั่วไปคนมักเข้าใจผิดว่า ขี้หูเป็นสิ่งสกปรกและพยายามแคะออกเพื่อให้หูสะอาด

     เว็ปไซด์ independent ของประเทศอังกฤษกล่าวว่า คอตตอนบัดที่ผลิตอยู่ในประเทศอังกฤษ มีคำเตือนอยู่ข้างผลิตภัณฑ์เสมอ ว่าห้ามใช้ทำความสะอาดข้างในรูหู แต่คนส่วนมากมักไม่ใส่ใจ และใช้ทำความสะอาดข้างในรูหูกันเรื่อยมาก นอกจากนี้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูก มักพบผู้ป่วยที่มีปัญหากับหู จากการใช้คอตตอนบัดในรูหูตลอดเวลา และได้แนะนำให้ผู้ป่วยหยุดใช้ทุกครั้ง

     และที่สำคัญที่สุดคือ การใช้คอตตอนบัดดันเข้าไปในรูหูนั้น จะกลับกลายเป็นการผลักเอาขี้หูให้เข้าไปรวมเป็นก้อนใหญ่และอัดแข็งในรูหูชั้นในมากขึ้น ๆ และที่อันตรายมาก คือการใช้ก้านสำลีพลาด ปั่นลึกมากเกินไป อาจทำให้เยื่อแก้วหูทะลุได้

     นกเองก็เป็นคนที่รักความสะอาด ถ้าเห็นขี้หูตัวเองเป็นก้อนเหลืองในรูหูก็อาจรู้สึกแปลก ๆ นะคะ แต่พอได้พบข้อมูลที่นำมาแบ่งบันในวันนี้ก็ต้อง ปรับทัศนคติกันใหม่หน่อยล่ะคะ อีกทั้งนกเป็นคนผิวมัน หูดันมันง่ายซะอีก บางวันส่องกระจกเช็คความเรียบร้อยของใบหน้า แต่กลับเห็นว่าหูงี้มันแผล็บเลย ยิ่งห่างการสระผมยาวนานถึงสามวันเวลาไปต่างประเทศงี้ หูยิ่งมันมาก นกเลยค้นพบวิธีใหม่ในการทำความสะอาดทั้งใบหูตัวเอง ก็ใช้ช่วงเวลาตอนสระผมนั่นล่ะค่ะ ล้างหูไปด้วยในตัว ใช้ฟองสบู่ที่มาจากการสระผม ซึ่งเจอจางพอควรแล้ว ล้างหูทั้งใบไปด้วย และซับให้แห้งด้วยผ้าขนหนูตอนเป่าผม ที่นี้ความรู้สึกหูไม่สะอาดจะหมดไป ไม่ต้องไปยุ่งกับคอตตอนบัดให้มีความเสี่ยง คอตตอนบัดนกใช้แค่เก็บรายละเอียดตอนแต่งหน้าแต่งตาทาอายชาโดว์เท่านั้น เอาวางไว้รวมกันเครื่องสำอางเลยจะได้ไม่เผลอหยิบเอามาแคะหูได้อันที่เล่ามาเป็นวิธีของนก ทีนี้ก็มีวิธีทำความสะอาดหูที่ถูกต้องมาให้เป็นทางเลือกปฏิบัติกันค่ะ

     ห้ามแคะ ปั่นหูด้วยคอตตอนบัด หรือนำคอตตอนบัดไปชุบแอลกอฮอล์ น้ำเกลือหรือของเหลวอื่นๆ แล้วนำมาแคะหูเป็นอันขาด เพราะจะทำให้หูแห้งเกินไป โดยเฉพาะการใช้แอลกอฮอล์ และหากของเหลวนั้นไหลลงข้างในชั้นหู อาจทำให้เกิดอาการ ระคายเคือง อักเสบ จนอาจเป็นโรคหูน้ำหนวกได้

     ใช้คอตตอนบัดทำความสะอาดเพียงบริเวณใบหู และบริเวณปากรูหูเท่านั้น หากน้ำเข้าหูทุกครั้งเมื่ออาบน้ำสระผม ให้ใช้สำลีอุดหูก่อนสระผม

     หากรู้สึกว่าน้ำเข้าหูให้เอียงหูข้างนั้นลงเขย่าหัวเบา ๆ หรือกระโดดเบา ๆ ให้น้ำออกมาจากหูเอง หลีกเลี่ยงการใช้คอตตอนบัดเช็ดเข้าไปในรูหู

     หากรู้สึกหูอื้อ น้ำเข้าหูนานกว่าปกติ รู้สึกว่ามีอะไรเข้าไปในหู หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ เช่น ปวดหู มีเสียงในหู มีกลิ่นเหม็นประกอบกับมีของเหลวไหลออกมา อย่าปล่อยไว้นาน ควรรีบไปพบแพทย์ อย่าพยายามเช็ด หรือแคะข้างในหูด้วยตนเอง

     รู้แบบนี้แล้ว ใครที่ชอบใช้คอตตอนบัดปั่นหู แคะหู รวมถึงอุปกรณ์อื่น ๆ ทุกชนิด ถึงเวลาต้องเลิกอย่างเด็ดขาดแล้วนะคะ การทำความสะอาดอย่างถูกต้องและระมัดระวังเท่านี้เราก็สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวกับหูไปได้เยอะแล้วค่ะ

     หูเป็นอวัยวะของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีความพิเศษหลายอย่าง นอกจากจะใช้เพื่อการได้ยิน การรับสัญญาณต่างๆ แล้ว หูยังมีหน้าที่ช่วยการทรงตัวด้วย หูคอนเน็กกับสมองและความรู้สึกมากมายของมนุษย์ การสื่อสาร ความเชื่อและการกระทำล้วนแล้วแต่เกิดจากการได้ยินทั้งสิ้น ดังนั้นจงรักษาหูของเราไว้ให้ดี เพราะมันเป็นอวัยวะแห่งประสาทสัมผัสที่อยากให้ทุกคนมีไว้นานๆ ไม่แคะ ไม่ปั่น ไม่ฟังเสียงดังเกินไป พักหูจากเรื่องไร้สาระ ล้วนแล้วแต่ทำให้ชีวิตดีขึ้นค่ะ


     แวะมาคุยเรื่องสุขภาพกับนกได้ที่แฟนเพจ Facebook: Health Society by Nok Chalida ที่อินสตาแกรม NokHealthSo หรือ Line Official: @HealthSocieity นะคะ และอย่าลืม Subscribe รายการ Health Society by Nok Chalida ทาง YouTube พร้อมชมรายชมรายการ “เฮลท์โซไซตี้” ด้วยกันนะคะ

นางสาวไทยปี 2541 จบปริญญาเอกสาขาวิทยาศาสตร์การชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง รวมถึงสอบผ่านมาตรฐานผู้มีวิชาชีพด้านสุขภาพวิทยาศาสตร์ชะลอวัยจาก American Board Anti-Aging Health Practitioner สถาบัน A4M และปัจจุบันกำลังศึกษาต่อปริญญาเอกด้าน Anti Aging and Regenerative Science ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ติดตามความเห็น
รูปแบบการแจ้งเตือน
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments