กินต้นอ่อน… ให้อ่อนเยาว์
เรื่องราวที่เราต้องนำมาตรวจสอบกันวันนี้ก็คือเรื่องของการ “กินต้นอ่อน… ให้อ่อนเยาว์” กินต้นอ่อนนะคะ ไม่ใข่กินกินตับหรือกินไตใด ๆ และเรื่องของการรับประทานต้นอ่อนนี้หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว หรือหลายคนอาจจะถึงขั้นเคยรับประทานกันแล้วด้วย แต่ว่าต้นอ่อนที่มีรสชาติอร่อย สามารถรับประทานได้ และมีประโยชน์กับร่างกายของเราจริง ๆ มีไม่กี่ชนิดเท่านั้น
ต้นอ่อนที่มีประโยชน์กับร่างกายมีไม่กี่ชนิดเท่านั้น
เนื่องจากว่าช่วงที่พืชเป็นต้นอ่อนนั้นเป็นระยะแรกของการเจริญเติบโตของพืช จึงจำเป็นที่จะต้องอุดมไปด้วย วิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ ไฟเบอร์ โปรตีน และสารอาหารของพืชในช่วงนี้จะมากกว่าปกติ 5 – 6 เท่า อีกทั้งยังย่อยง่าย ให้ประโยชน์เต็ม ๆ แบบสุด ๆ เลยค่ะ
ต้นอ่อนทานตะวัน
ต้นอ่อนทานตะวันแก่ช่วยยับยั้งโรค จากการมีวิตามินบี (Vitamin B) และวิตามินดี (Vitamin D) สูงมาก และยังอุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นหลายชนิด ซึ่งก็มีงานวิจัยจากประเทศจีนว่าในต้นอ่อนของทานตะวันนั้นมีสารไซนาริน (Cynarin) มีคุณสมบัติิช่วยในการชะลอวัยให้กับเราได้อีกด้วย

นอกจากนี้ต้นอ่อ่นของทานตะวันยังมีกาบา (Gaba) ช่วยในการป้องกันโรคหลายอย่างเช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน ช่วยควบคุมน้ำหนัก บำรุงเซลสมอง บำรุงสายตา บำรุงผิวพรรณให้เราดูอ่อนเยาว์ได้ด้วยค่ะ
ข้อควรระวังในการรรับประทานต้นอ่อนทานตะวัน
ไม่ควรรับประทานมากเกินไปนะคะ (ไม่ว่าอะไร) เพราะต้นอ่อนเมล็ดทานตะวันอาจจะทำให้เราน้ำมากขึ้นได้ เพราะต้นอ่อนทานตะวันนั้น 1 ถ้วยตวงให้พลังงานมากถึง 760 กิโลแคลอรี
ต้นงอกของต้นกล้าข้าวสาลี (Wheatgrass)
ต้นงอกของต้นกล้าข้าวสาลี (Wheatgrass) เป็นธัญพืชอัศจรรย์อุดมไปด้วยสารอาหารนานาชนิด ทั้งยังมีเกลือแร่ กรดอะมิโน เอ็นไซม์ คลอโรฟิล ไฟเบอร์ และสามารถเพิ่มฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงได้หลังรับประทานน้ำคั้นติดต่อกันอย่างน้อย 6 เดือน

ต้นอ่อนข้าวสาลีมีสูตรหรือโครงสร้างคล้ายกับ HEAM ซึ่ง “ฮีม” คือสารที่ร่างกายนำไปใช้สำหรับสร้างฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงจนมีการเรียกต้นอ่อนของข้าวสาลีนี้ว่า “เลือดสีเขียว”
ต้นอ่อนบร็อกโคลี่
บร็อกโครี่ที่เราเห็นในเมนูอาหารส่วนใหญ่จะเป็นบร็อกโครี่ที่โตแล้ว แต่นกอยากอนะนำต้นอ่อนของบร็อกโครี่ด้วยค่ะ เพราะว่าต้นอ่อนของบร็อกโครี่มีคุณค่าทางสารอาหารสูงมากเลยค่ะ มากกว่าบร็อกโครี่ตอนโตเต็มวัยหลายสิบเท่าเลยค่ะ

ต้นอ่อนของบร็อกโครีช่วยลดความดันเลือดและยังมีสารต้านมะเร็งอยู่ 2 ชนิด คือ กลูโคซิโนเลท (Glucosinolates) และไอโซไธโอไซยาเนท (Isothiocyanates) ที่มากกว่าบร็อกโครี่โตเต็มวัยหลายสิบเท่า
ต้นอ่อนอัลฟาฟ่า (Alfalfa)
สำหรับคุณผู้หญิงอย่างนกและหลาย ๆ ท่าน ประโยชน์ของต้นอ่อนอัลฟาฟ่าอาจจะทำให้ชื่นชอบการรับประทานต้นอ่อนไปเลยค่ะ เพราะว่าต้นอ่อนนั้นอุดมไปด้วย วิตามินซี วิตามินอี และกลูต้าไธโอน ซึ่งมีส่วนช่วยในเรื่องของผิวพรรณ

นอกจากนี้ต้นอ่อนอัลฟาฟ่ายังเป็นแหล่งของไฟโตเอสโตรเจนที่ช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ในผู้หญิงวัย 45 ปีขึ้นไป อย่างเช่น โรคกระดูกพรุน มือชาเท้าชา อารมณ์แปรปรวน
ต้นอ่อนของพืชที่นกนำเสนอในครั้งนี้ต่างีงานวิจัยรองรับทั้งนั้นเลยนะคะ และแนะนำให้รับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะเรารับประทานเพื่อป้องกันโรคไม่ใช้การรักษาโรค และที่สำคัญมีข้อควรระวังสำหรับคนที่เป็นโรคเก๊าท์ที่จะต้องระมัดระวังเรื่องการรับประทานอะไรที่เป็นยอดอ่อน หน่อไม้ หรือต้นอ่อนของพืชที่นกนำมาในวันนี้ก็เช่นกันค่ะ