เมนู Gluten Free ปลากระพงย่าง ซัลซ่ามะม่วงวาฟเฟิล
เมื่อมาถึงคอลลัมน์นี้ก็แน่นอนว่านกจะต้องมากับเชฟขวัญ แก้วขวัญ ธนโชติ พร้อมกับวันนี้นกมีโจทย์ให้เชฟขวัญคือเมนูที่ไม่มีกลูเตนภายในส่วนผสม เราถ้าเราไปร้านสะดวกซื้อที่มีขนาดใหญ่สักหน่อย หรือบางโรงแรม จะมีมุมของกินที่บอกว่า “Gluten Free” และก่อนเข้าสู่วิธีการทำเมนู “ปลากระพงย่าง ซัลซ่ามะม่วงวาฟเฟิล” นกขอสอดแทรกความรู้เรื่องกลูเตนเอาไว้หน่อยนึงนะคะ
กลูเตนคืออะไร ? ทำไมต้อง Gluten Free
กลูเตน เป็นไกลโคโปรตีนที่พบในส่วนที่เป็นเอนโดสเปิร์มของธัญพืช (cereal grain) เช่น ข้าวสาลี(wheat) บาร์เลย์ ไรย์ และโอ๊ต ทำหน้าที่ประสานอาหาร เช่นการทำให้แป้งโดสำหรับทำขนมปังจับตัวเป็นก้อน ช่วยให้ขนมปังฟู มีเนื้อนุ่ม

การแพ้กลูเตน (Gluten Intolerance) เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบการย่อยของลำไส้ที่ไม่ สามารถย่อยกลูเตนผ่านเข้าสู่ลำไส้เล็กได้ ทำให้เกิดอาการเช่นเดียวกับการแพ้นม ผู้แพ้กลูเตนอาจมีอาการท้องอืด มีแก๊สในกระเพาะ และท้องเสียค่ะ ซึ่งถ้าอยากทำความรู้จักกับการแพ้กลูเตนให้มากขึ้นก็สามารถคลิกเข้าอ่านได้ที่บทความ “กลูเตน (gluten) คืออะไร ? ทำไมต้องมีฉลาก Gluten Free” จะมีข้อมูลที่ละเอียดขึ้นนะคะ
ขั้นตอนการทำปลากระพงย่าง ซัลซ่ามะม่วงวาฟเฟิลกลูเตนฟรี
เข้าสู่เรื่องการทำอาหารกับเชฟขวัญกันแล้วค่ะ เริ่มจากการทำความรู้จักกับวัตถุดิบที่เราจะนำมาใช้สร้างสรรค์เมนูสำหรับคนแพ้อาหารง่าย “ปลากระพงย่างซัลซ่ามะม่วงวาฟเฟิลกลูเตนฟรี”
➀ เตรียมแป้งวาฟเฟิล
เริ่มต้นเมนูนี้ด้วยการเตรียมแป้งวาฟเฟิลกันไว้ล่วงหน้าก่อนค่ะ ซึ่งส่วนผสมหลักของเมนูนี้ก็ต้องมี “แป้งกลูเตนฟรี” พร้อมกับส่วนผสมอื่น ๆ ที่ปราศจากกลูเตนอย่างเช่นน้ำนมข้าวและกล้วยหอมบด
ใส่แป้งกลูเตนฟรีประมาณ 1 ถ้วย

ตามด้วยน้ำนมข้าวนะคะ

จากนั้นเราเลือกใช้กล้วยผสมกับแป้งแทนไข่

คลุกส่วนผสมให้เข้ากันจากนั้นเปิดเตาวาฟเฟิลอุ่นเตรียมเอาไว้ก่อนนะคะ และขั้นตอนถัดไปเรามาเริ่มเตรียมเนื้อปลากระพงกันค่ะ
➁ เตรียมปลากระพง
หลังจากเตรียมแป้งวาฟเฟิลและอุ่นเตาไว้แล้ว เรามาเตรียมเนื้อปลากระพงกันนะคะ โดยมีส่วนผสมง่าย ๆ อย่างเนื้อปลากระพง ใบไทม์ พริกไทยป่น และเกลือ ตามรูปด้านล่างนี้เลยค่ะ

เริ่มด้วยการโปรยพริกไทยป่นเล็กน้อยลงบนเนื้อปลากระพง แล้วตามด้วยเกลือและใบไทม์
จากนั้นเราจะเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการทอดปลากระพงกันแล้วนะคะ โดยการทอดครั้งนี้เราต้องเลือกใช้น้ำมันเมล็ดชากันนะคะ เพราะน้ำมันเมล็ดชาจะไม่มีหรือไม่เปลี่ยนรูปเป็นไขมันทรานส์ที่เป็นพิษกับหลอดเลือดของเรา และน้ำมันเมล็ดชาทำให้รสชาติอาหารเพี้ยนต่ำกว่าน้ำมันหลาย ๆ อย่างค่ะ ที่สำคัญกว่านั้น น้ำมันเมล็ดชาจะยังคงรักษาคุณค่าทางอาหารไว้ได้สูงถึงแม้จะผ่านความร้อนสูงนะคะ

ค้างเนื้อปลากระพงเอาไว้รอให้สุก ระหว่างนั้นเรามาทำซัลซ่ากันค่ะ
➂ ทำซัลซ่ามะม่วง
องค์ประกอบอย่างสุดท้ายที่เราจะนำมาประกอบเป็นเมนูนี้ นั่นก็คือซัลซ่ามะม่วงนั่นเอง โดยวัตถุดิบหลักที่ขาดไม่ได้ก็คือมะม่วงสุกนำมาหั่นเป็นลูกเต๋าเอาไว้นะคะ และส่วนผสมอื่น ๆ ก็จะมีพริกหวาน 3 สีหั่น หอมแดงสับ พริกปราปริก้า และพาร์สลีย์สับ ตามรายการด้านล่างนี้เลย

ใส่มะม่วงสุก พริกหวานสามสีลงในโถผสม บีบมะนาวใส่เล็กนน้อย ใส่หอมแดงสับลงไปแล้วตามด้วยผปราปริก้าให้มีสีแดงสวยงาม โรยหน้าด้วยพาร์สลีย์สับจากนั้นคลุกเบา ๆ ให้ส่วนผสมเข้ากันก็เป็นอันเรียบร้อยสำหรับซัลซ่ามะม่วง

ปลากระพงกำลังจะสุกแล้ว…
หลังจากที่เนื้อปลากระพงที่เราทอดไว้สุกก็นำขึ้นมาวางเตรียมๆว้บนจานอาหารที่เราจะใช้งานได้เลยนะคะ

ทำวาฟเฟิ้ล
และตอนนี้เตาสำหรับอบวาฟเฟิ้ลของเราก็ร้อนได้ทีแล้ว ให้นำน้ำมันเมล็ดชาทาที่แม่พิมพ์ก่อนนะคะ

เทแป้งวาฟเฟิ้ลที่เราเตรียมไว้ต้องแต่ตอนแรกลงไป โดยเทจากตรงกลางให้แป้งไหลไป
ระหว่างที่รอให้วาฟเฟิ้ลสุก เรามาจัดจานอาหารเมนูนี้รอวาฟเฟิ้ลกันค่ะ โดยใช้จานปลากระพงที่เราเพิ่งนำขึ้นมาจากระทะแล้วใส่ซัลซ่ามะม่วงที่เราเพิ่งทำเสร็จไว้ข้าง ๆ

ซักพักวาฟเฟิ้ลที่เราทำไว้ก็จะสุกพอดีค่ะ เมื่อสุกแล้วก็นำขึ้นมาได้เลย

ตัดวาฟเฟิ้ลและวางคู่บนจานปลากระพงทอดและซัลซ่ามะม่วง

เรียบร้อยแล้วนะคะเมนูสำหรับคนที่แพ้อาหารแต่ชอบกินกับเมนู ” ปลากระพงย่างซัลซ่ามะม่วงวาฟเฟิลกลูเตนฟรี” สำหรับคุณผู้รักสุขภาพทุกท่านที่มีอาการแพ้อาหาร (หรือไม่แพ้ก็รับประทานได้นะคะ) เมนูนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยนะคะ
