ภูมิแพ้อาหาร (Food Allergy)

     การแพ้อาหารมีอยู่ 2 แบบนะคะคือ การแพ้แบบเฉียบพลัน (Immunoglobulin E) คือการแพ้ที่เป็นแล้วจะรักษาไม่หาย  เป็นตลอดชีวิต  หากมีอาการแพ้รุนแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย  แต่ยังไม่น่ากลัวเท่ากับการแพ้แบบแอบแฝง  เพราะการแพ้แบบเฉียบพลันเราจะรู้อยู่แล้วว่าเราแพ้อะไร  และเลือกไม่รับประทานสิ่งนั้นได้  ส่วนการแพ้อีกแบบก็คือการแพ้แอบแฝง (Immunoglobulin G) คือยังไม่แสดงอาการโดยทันที  และแพ้อาหารทั่วไปที่เรากินประจำนี่เอง

20 อาหารที่คนส่วนใหญ่แพ้

     ขอเริ่มต้นด้วยนมวัวค่ะ เพราะคนเอเซียส่วนใหญ่แพ้นมวัว ซึ่งในนมวัวมีสารบางอย่างที่สามารถทำให้เราเกิดอาการแพ้เรื้อรังได้ เมื่อเกิดการแพ้สะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ จะทำให้เยื้อบุลำไส้เสียหาย เกิดเป็นโรคลำไส้รั่ว (Leaky Gut Syndrome) ทำให้สารพิษตกค้างเข้าสู่กระแสเลือด

     และอีกอย่างที่คนชอบแพ้ก็คือกลูเตนที่มีอยู่ในธัญพืชหลายชนิดเลยค่ะ  ขนมปังส่วนใหญ่ก็มีกลูเตน  แต่ร่างกายคนส่วนใหญ่แพ้กลูเตนนะคะ  และในปัจจุบันนี้ก็เริ่มมีการให้ความสำคัญกับการแพ้กลูเตนที่เราจะเห็นหลาย ๆ ผลิตภัณฑ์จะมีฉลาก “Gluten Free” แปะเอาไว้

     ในไข่ก็มีสารที่ทำให้เกิดการแพ้อยูนะคะ  ชื่อว่าสารโอโวมิวคอยด์ (Ovomucoid) ซึ่งถ้าเราไปตรวจที่โรงพยาบาลและพบว่ามีการแพ้โอโวมิวคอยด์ก็ต้องพยายามงดไข่ค่ะ  ซึ่งนอกจากนี้ก็ยังมีอาหารอีกหลายอย่างที่คนชแบแพ้ตามรายการด้านล่างนี้เลยค่ะ

นมวัว / Gliadin ในข้าวสาลี / กลูเตน / ยีสต์ / ไข่ขาว / ไข่แดง / เม็ดมะม่วงหิมพานต์ / กระเทียม / ถั่วเหลือง / อัลมอนด์ / แห้ว / ข้าวโพด / เฮเซชนัท / ถั่วแระ / ข้าวโอ๊ต / กีวี่ฟรุต / พริกไทย / เมล็ดทานตะวัน / เมล็ดงา / ถั่วลิสง

     ปัจจุมันมีโรคที่บางครั้งเราหาสาเหตุไม่ได้เป็นจำนวนมาก  ซึ่งเกิดจากการแพ้อาหารแบบแอบแฝง (IgG Food Allergy) อย่างโรคลำไส้รั่ว (Leaky Gut Syndrome) ที่ผิวลำไส้ถูกทำลายทำให้อาหารที่ดีไม่ถูกดูดซึม  หรือว่าโปรตีนโมเลกุลใหญ่ถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือด  ทำให้ร่างกายผลิต IgG Anti Body ออกมา  เป็นตัวการสำคัญที่เกิดจากอาหารที่ก่อให้เกิดโรคภัยต่าง ๆ มากมายตั้งแต่หัวจรดเท้า  เช่น  ความคิดไม่แจ่มใส (ฺBrain Fog) นอนไม่หลับ (Insomnia) ความจำเสื่อม (Alzheimer’s disease)  รวมถึงอาการท้องอืด  ท้องเฟ้อ  อาหารไม่ย่อย  ก็อาจจะมาจากการแพ้อาหารแบบแอบแฝงได้นะคะ

วิธีง่าย ๆ เพื่อรักษาร่างกายจากการแพ้แอบแฝง

วิธีนี้ง่ายมากเลยค่ะเพียงแค่หมุนเวียนเมนูอาหาร ไม่รับประทานอะไรซ้ำ ๆ นานเกินไป และถ้าเป็นไปได้ก็ให้เปลี่ยนแหล่งวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหารอยู่บ่อย ๆ เพราะหากพืชผักที่เราเลือกมีสารตกค้าง ร่างกายของเราก็จะสะสมสารตกค้างเดิม ๆ ให้มีปริมาณมากขึ้นกระทั่งส่งผลเสียกับร่างกายขึ้นมา

นางสาวไทยปี 2541 จบปริญญาเอกสาขาวิทยาศาสตร์การชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง รวมถึงสอบผ่านมาตรฐานผู้มีวิชาชีพด้านสุขภาพวิทยาศาสตร์ชะลอวัยจาก American Board Anti-Aging Health Practitioner สถาบัน A4M และปัจจุบันกำลังศึกษาต่อปริญญาเอกด้าน Anti Aging and Regenerative Science ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ติดตามความเห็น
รูปแบบการแจ้งเตือน
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments